มุ้งสแตนเลสราคาเริ่มต้น 4,900 บาท/ตร.ม. มุ้งนิรภัยราคาเริ่มต้น 7,900 บาท/ตร.ม.
บริษัท เจริญวิทย์เทรดดิ้ง จำกัด
รับประกันงานติดตั้ง 1 ปี พร้อมรับประกันการไม่เกิดสนิมของเส้นลวด เป็นระยะเวลา 5 ปี สำหรับเส้นลวด SUS304 และ 10ปี สาหรับเส้นลวด SUS316
ทั่วประเทศ ยกเว้นจังหวัด นราธิวาส ปัตตานี ยะลา
ประตู-หน้าต่างมุ้งลวดนิรภัย เริ่มต้นที่ 7,900 บาท/ตร.ม. โดยจะเป็นในรูปแบบของบานตาย ไม่สามารถเปิดได้ และเป็นรุ่นที่เส้นลวดเล็กที่สุดคือ รุ่น Economy แนะนำให้ใช้สำหรับป้องกันสัตว์เลี้ยง หรือพื้นที่ที่มีการป้องกันอย่างอื่นร่วมด้วย เช่นเหล็กดัด หรือ กล้องวงจรปิดตรวจจับความเคลื่อนไหว สามารถติดตั้งได้ทั้งด้านในและด้านนอกบ้าน
จุดเด่นงานมุ้งลวดนิรภัย
มุ้งลวดนิรภัยมี 4 แบบดังนี้
ราคาติดตั้งเบื้องต้นรวมค่าเดินทางในเขตกรุงเทพฯ นนทบุรี, ปทุมธานี, สมุทรปราการ
FAQ
1. มุ้งลวดนิรภัยสามารถเกิดสนิมได้หรือไม่ >> สแตนเลสมีความแตกต่างจากเหล็ก เนื่องจากได้มีการผสมธาตุ นิกเกิล และโครเมียมเข้าไป เพื่อสร้างสภาพการป้องกันการเกิดปฏิกิริยากับอ๊อกซิเจนในอากาศ ซึ่งนิกเกิล และโครเมียมนั้นจะสร้างฟิล์มชนิดหนึ่งขึ้นมาเพื่อป้องกันที่พื้นผิวของสแตนเลส เมื่อเกิดมีสิ่งแปลกปลอมมาทำปฏิกิริยา เช่น อากาศ หรือน้ำ หรือกรด,ด่าง หรือเกลือ ฯลฯ โดยฟิล์มชนิดนี้จะมีสีน้ำตาลคล้ายๆสนิม แต่ไม่ใช่สนิม เพราะมุ้งลวดไม่เสียความแข็งแรง ไม่มีการผุกร่อน เส้นลวดไม่ฉีกขาดทะลุ
2. มุ้งลวดนิรภัย ทำความสะอาดอย่างไร >> สามารถใช้เครื่องดูดฝุ่นที่มีแปรงขน ดูดฝุ่นอย่างสม่ำเสมอ เพื่อลดการสะสมตัวของคราบสกปรก แต่หากมุ้งเริ่มมีคราบฝุ่นเป็นคราบสีขาว และมีเศษต่างๆสะสมบนมุ้งเป็นจำนวนมากแล้ว หลังจากดูดฝุ่นเสร็จ ให้ใช้น้ำยาทำความสะอาดอเนกประสงค์ (แนะนำ Dettol หรือ Smarter) ผสมกับน้ำ 1:5 ส่วน แล้วใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์ชุบน้ำยาและดันฝุ่นเช็ดทำความสะอาดให้ทั่ว ทั้งด้านนอก-ด้านใน และเช็ดให้แห้ง
3. ระบบล็อค มัลติพอทย์ มีกี่จุด >> รุ่น Economy จะเริ่มต้นจาก 2 จุด ,รุ่น Classic จะมี 3 จุด และ Premium จะมี 4-6 จุด
4. ผลิตกี่วัน และ ติดตั้งกี่วัน >> โดยปกติการผลิตจะใช้เวลา 45-60 วันนับจากลูกค้าทำการสั่งซื้อ โดยการติดตั้งใช้เวลาน้อยมากเนื่องจากเราทำเป็น Knockdown Unit มาเรียบร้อย สามารถยกติดตั้งที่หน้างานได้ทันที โดยทั่วไปใช้เวลาเพียงวันเดียว แต่ถ้ามีจานวนมากกว่า 10 ชุด หรือมีความซับซ้อนของงานมากอาจจะใช้เวลาไม่เกิน 2-3 วัน
5. หากพ้นระยะเวลาการรับประกันไปแล้ว ลูกค้ามีปัญหาในการใช้งานจะทำอย่างไร >> มีค่าบริการเท่ากับค่าสารวจในแต่ละจังหวัด และจะมีการคิดค่าอุปกรณ์กรณีที่จะต้องใช้อุปกรณ์ใดๆเปลี่ยนแก่ลูกค้าด้วย
6. วงกบประตูหน้าต่างต้องมีพื้นที่เท่าไหร่ (กระจก+มุ้งลวดนิรภัย) >> โดยทั่วไปขนาดจะไม่มีขั้นต่ำ แต่จะมีขนาดความกว้างและความสูงที่จำกัด โดยมีความกว้างไม่เกิน 1.5 เมตร ต่อบาน และความสูง ไม่เกิน 4.5 เมตร ต่อบาน หากต้องการทราบความกว้างต่อบานสามารถหาได้โดยการเอาความกว้างของวงกบหารด้วยจำนวนบาน
7. วงกบอลูมิเนียม มุ้งลวดนิรภัย รูปแบบบานเลื่อน - บานเปิด มีขนาดหนาเท่าไหร่ >> การติดตั้งกระจกปกติจะใช้ขนาดความหนาวงกบที่ 10 cm. ซึ่งการติดตั้งหากไม่ได้เผื่อวงกบหนากว่านั้นจะทำให้กรอบวงกบมุ้งลวดนิรภัยนั้นล้นออกมา อย่างไรก็ดีการออกแบบเฟรมมุ้งลวดนิรภัยปัจจุบันได้ทำการลดความหนาออกไปจนเหลือความหนาที่พอดี ไม่มากเกินไปกล่าวคือ รุ่นพรีเมี่ยมเฟรมวงกบบานเลื่อนจะบางเพียง 6 cm. ในขณะที่บานเปิดจะอยู่ที่ 4 cm.รุ่น Economy/Classic จะมีเฟรมวงกบหนาขึ้นมาอีกคือ บานเลื่อน 7.6 cm. บานเปิด 5 cm.
8. ราง+ธรณี มุ้งลวดนิรภัย กว้าง สูง กี่ cm. / สูงเตี้ย ต่างกันอย่างไร >> รุ่น Economy และ Classic จะมีความสูงของรางบานเลื่อนอยู่ที่ 4.5 cm. รุ่น Premium สามารถเลือกได้ว่าจะใช้ราง 4.5 cm. หรือรางเตี้ย 0.9 cm. (แนะนำราง 4.5 cm. เพื่อผลลัพธ์ความแข็งแรงที่สุด) ส่วนประตูบานเปิดนั้น ไม่มีราง ไม่มีธรณีประตู
9. อลูมิเนียม มุ้งลวดนิรภัย มีให้เลือกกี่สี + ความหนาเท่าไหร่ >> กรอบอลูมิเนียมของมุ้งลวดนิรภัย มีหลายขนาดความหนา โดยรุ่น Economy และ Classic จะมีความหนาทั่วไปอยู่ที่ 1.2 mm. เป็นระบบ Semi-Euro System. ในขณะที่ Premium จะมีความหนาทั่วไปที่ 2.0 mm. เป็นระบบ Full-Euro System. ซึ่งให้ผลลัพธ์แตกต่างกันทั้งในเรื่องของเสถียรภาพการใช้งาน การป้องกันโจรกรรม ความทนทาน ในขณะที่ สีจะมีให้เลือกเฉพาะ ขาว/ดำ ใน Economy และ Classic ส่วน Premium จะมีสี ขาว/ดำ/เทา และ Premium+ จะสามารถเลือกสีได้มากกว่า 200 เฉดสีรวมถึงสีลายไม้ ในราคา +10% ของราคาปกติ
10. มุ้งลวดนิรภัย แต่ละรุ่นเส้นลวดเท่าไหร่ >> มีความหนาของเส้นลวด(ไม่รวมสารเคลือบ) ดังนี้ รุ่น Economy จะมีความหนา 0.51 mm. (SWG.25) , รุ่น Classic จะมีความหนา 0.714 mm. (SWG.22) , รุ่น Premium จะมีความหนา 0.914 mm. (SWG.20) ซึ่งขนาดเส้นลวดจะสะท้อนถึงการตอบโจทย์การใช้งาน เส้นลวดเล็กจะมีความต้านทานการโจรกรรมได้น้อยลง ในขณะที่เส้นลวดหนา จะสามารถป้องกันการโจรกรรมได้ดีที่สุด