กระเบื้องยาง SPC หรือ พื้น SPC คือวัสดุปูพื้นในบ้านกลุ่มกระเบื้องยางที่ได้รับความนิยม โดยเฉพาะพื้น SPC ลายไม้ หรือที่เรียกกันว่า “พื้นไม้ SPC” ด้วยลุคที่ดูสวยงามอบอุ่น แต่ดูแลง่ายกว่าไม้จริง ทั้งยังแข็งแรงทนทาน ติดตั้งง่าย พื้น SPC คืออะไร วัสดุส่วนประกอบเป็นอย่างไร พื้น SPC (Stone Plastic Composite) เป็นวัสดุปูพื้นภายใน ผลิตจากเม็ดพลาสติกผสมผงหิน ปิดผิวด้วยฟิล์มพิมพ์ลวดลาย มีการเคลือบป้องกันการขีดข่วนเพื่อความคงทนในการใช้งาน โดยมีฟิล์มกัน UV ป้องกันสีซีดจางเคลือบทับอีกชั้น พื้น SPC มักจะหนา 3-5 มม. ขนาดโดยทั่วไปประมาณ 18 x 120 ซม. มีลวดลายสีสันหลากหลายให้เลือกทั้งลายไม้ ลายหิน ลายหินอ่อน ลายปูน โดยที่นิยมคือลายไม้ หรือที่มักเรียกกันว่า “พื้นไม้ SPC” หรือ “ไม้พื้น SPC”\ซึ่งเลือกได้ทั้งแบบปูแพทเทิร์นธรรมดา และปูแบบก้างปลา ปูพื้น SPC กระเบื้องยาง SPC แบบธรรมดาและปูลายก้างปลา ภาพ: (ซ้าย) ตัวอย่างการปูพื้น SPC แบบธรรมดา และ (ขวา) การปูพื้น SPC แบบลายก้างปลา ส่วนประกอบไม้พื้น SPC กระเบื้องยาง SPC ภาพ: ส่วนประกอบของพื้น SPC ลวดลายและสีต่างๆ ของไม้พื้น SPC กระเบื้องยาง SPC ภาพ: พื้น SPC ลายต่างๆ พื้น SPC มีคุณสมบัติอย่างไร พื้น SPC แม้จะมีหลายรุ่นที่เป็นลายไม้ แต่ก็จะไม่มีส่วนผสมของไม้อยู่เลย (ต่างกับพื้นไม้ลามิเนตซึ่งมีไม้ผสมอยู่) จึงทนความชื้นในระดับที่สามารถปูพื้นชั้นล่างซึ่งอยู่ใกล้กับความชื้นจากพื้นดินได้ ซึ่งคล้ายกับพื้นไวนิล แต่จะต่างตรงที่พื้นไวนิลผลิตจากพลาสติกอย่างเดียว จึงมีความอ่อนตัว คงรูปได้น้อยกว่าและยืดหดง่ายเมื่ออุณหภูมิเปลี่ยน ในขณะที่พื้น SPC จะมีส่วนผสมของทั้งพลาสติกและผงหิน จึงมีความแข็ง คงรูปได้ดี และเมื่ออุณหภูมิเปลี่ยนแปลงจะยืดหดตัวน้อยกว่าพื้นไวนิล แต่ก็จะมีความเปราะมากกว่า ดังนั้นในการขนส่งและติดตั้ง จะต้องระมัดระวังเป็นพิเศษไม่ให้แตกหัก สนใจ ไม้พื้น SPC กระเบื้องยาง SPC พร้อมติดตั้งคลิก\ ปูพื้น SPC ในบ้านอย่างไร พื้น SPC ใช้สำหรับปูพื้นภายใน แม้ตัววัสดุจะทนความชื้น ติดตั้งกับพื้นทั้งชั้นบนและชั้นล่างได้ แต่ควรเป็นพื้นโซนแห้งเท่านั้น (ไม่เหมาะกับพื้นที่ต้องสัมผัสความชื้นโดยตรง อย่างพื้นห้องน้ำ พื้นระเบียง) การปูพื้น SPC ทำได้ง่ายด้วยการติดตั้งระบบเข้าลิ้นแบบคลิกล็อก กรีดตัดได้ด้วยคัตเตอร์ ใช้งานได้ทันทีหลังติดตั้ง กรณีต้องการปรับปรุงพื้นภายในบ้าน หากพื้นเดิมเป็น ปูนขัดมันเรียบ ซีเมนต์บอร์ด (ไม้อัดซีเมนต์ ไฟเบอร์ซีเมนต์) พื้นไม้ปาร์เกต์ กระเบื้องเซรามิก หินขัด ก็สามารถปูพื้น SPC ทับพื้นได้ไม่ต้องรื้อพื้นเดิมออก การติดตั้งไม้พื้น SPC ปูกระเบื้องยาง SPC ภาพ: (ซ้าย) ลิ้นของพื้น SPC สำหรับปูติดตั้งแบบ Click Lock และ (ขวา) ตัวอย่างการปูพื้น SPC โดยใช้โฟมรองปรับระดับช่วย พื้น SPC กับกระเบื้องยาง SPC เหมือนหรือต่างกันอย่างไร คำว่า “กระเบื้องยาง” เป็นวัสดุปูพื้นกลุ่มพอลิเมอร์ โดยอาจเรียกชื่อต่างกันไปตามส่วนผสมที่มีการพัฒนาตลอด บางครั้ง “กระเบื้องยาง” ก็ถูกเรียกสั้นๆ ว่า “กระเบื้อง” เช่น กระเบื้องพีวีซี PVC กระเบื้องไวนิล หากเป็นลายไม้ก็อาจใช้คำว่า “พื้นไม้” เช่น “พื้นไม้ไวนิล” ซึ่งพื้น SPC ก็มีวิธีเรียกหลากหลายไม่ว่าจะเป็น พื้นไม้ SPC, ไม้พื้น SPC, กระเบื้อง SPC และบางครั้งก็ถูกเรียกว่า “กระเบื้องยาง SPC” ด้วยส่วนผสมที่เป็นพลาสติกเช่นเดียวกับกลุ่มกระเบื้องยาง เพียงแต่มีการผสมหินเข้าไปด้วย จึงแข็งและคงรูปกว่ากระเบื้องยางประเภทอื่นๆ ดังนั้น (ลิงค์ไปสินค้า) “พื้น SPC”\กับ “กระเบื้องยาง SPC” จึงเป็นคำที่ใช้เรียกวัสดุเดียวกัน สนใจ ไม้พื้น SPC กระเบื้องยาง SPC พร้อมติดตั้งคลิก\ ข้อดีของพื้น SPC พื้น SPC รูปลักษณ์สวยงาม ผิวสัมผัสดี มีลวดลายและผิวสัมผัสที่ดูสวยงาม โดยเฉพาะลายไม้ ให้ลุคที่ดูคล้ายไม้จริงเป็นธรรมชาติ มีหลายโทนสีให้เลือก และ นอกจากนี้ พื้นSPC ลายไม้มีผิวสัมผัสนูนเล็กน้อยตามลวดลาย ช่วยลดความลื่นได้มากกว่าวัสดุปูพื้นที่มีผิวเรียบเนียบอย่างเช่น กระเบื้อง พื้น SPC ติดตั้งง่าย รวดเร็ว ใช้ระบบ Click Lock โดยไม่ต้องใช้กาว และมีความหนาไม่มาก สามารถปูบนพื้นใหม่หรือปูทับพื้นเดิมได้ทันที (หากพื้นเดิมเรียบและได้ระดับ) ไม่มีผลกระทบกับระดับพื้นที่เพิ่มขึ้นมากนัก รวมถึงการรื้อถอนหรือเปลี่ยนแผ่นก็ทำได้ง่าย พื้น SPC แข็งแรง ทนทาน ดูแลรักษาง่าย ทำจากเม็ดพลาสติกผสมหิน จึงแข็งแรง ไม่ยืดหดตัว ไม่บวมหรือโก่งตัว ทนแรงกระแทกและแรงกดทับได้ดี มีชั้น Wear Layer และ UV Coating ป้องกันรอยขีดข่วนและสีซีดจาง ทนต่อความชื้นได้ดี พื้น SPC ลายไม้ดูแลรักษาง่ายกว่าพื้นไม้จริงเพราะตัดปัญหาเรื่องไม้บวม และไม่เป็นอาหารของปลวก และทำความสะอาดง่ายโดยการเช็ดถูด้วยผ้าหมาด พื้นไม้ SPC กระเบื้องยาง SPC ตกแต่งห้องนั่งเล่น ภาพ: ตัวอย่างพื้น SPC หรือ กระเบื้องยาง SPC ลายไม้ ตกแต่งห้องนั่งเล่น พื้นไม้ SPC กระเบื้องยาง SPC ตกแต่งห้องนั่งอเนกประสงค์ ภาพ: ตัวอย่างพื้น SPC หรือ กระเบื้องยาง SPC ลายไม้ ตกแต่งห้องอเนกประสงค์ พื้นไม้ SPC กระเบื้องยาง SPC ตกแต่งห้องนั่งเล่น ภาพ: ตัวอย่างพื้น SPC หรือ กระเบื้องยาง SPC ลายไม้ ตกแต่งห้องนั่งเล่น สนใจไม้พื้น SPC กระเบื้องยาง SPC พร้อมติดตั้ง คลิก\ ข้อควรคำนึงในการใช้งานพื้น SPC แม้จะมีข้อดีหลายอย่างตามที่เล่าไป แต่การจะปูพื้น SPC ในบ้านก็มีบางเรื่องต้องคำนึง อย่างแรกคือ แม้พื้นจะทนรอยขีดข่วนจากการใช้งานทั่วไปได้ดี แต่จะไม่ทนต่อการกรีดด้วยของมีคม และหากจะปูพื้น SPC ทับพื้นเดิม พื้นผิวเดิมจะต้องเรียบได้ระดับ อยู่ในสภาพสมบูรณ์ไม่แตกหัก การทำความสะอาดพื้น SPC ควรใช้ผ้าหมาดในการทำความสะอาด หลีกเลี่ยงการใช้น้ำยาทำความสะอาดชนิดต่างๆ (เช่น น้ำยาล้างจาน ผงซักฟอก) รวมถึงการใช้ Wax ขัดเคลือบผิว เพราะอาจทำให้พื้นผิวเสื่อมสภาพได้ง่าย ทำความสะอาดไม้พื้น SPC กระเบื้องยาง SPC ด้วยผ้าหมาด ภาพ: วิธีทำความสะอาดพื้นด้วยผ้าหมาด ซึ่งเหมาะกับพื้น SPC หรือ กระเบื้องยาง SPC พื้น SPC หรือกระเบื้องยาง SPC เป็นวัสดุปูพื้นภายในที่น่าใช้ เนื่องด้วยส่วนผสมที่ผลิตจากเม็ดพลาสติกผสมผงหิน จึงแข็งแรง ทนทานต่อการขูดขีด (ยกเว้นแรงกรีดจากของมีคม) ทนชื้น มีลวดลายสีสันหลากหลาย ติดตั้งง่ายด้วยระบบคลิกล็อก ไม่ต้องใช้กาว สามารถปูทับพื้นเดิมได้หากพื้นเรียบและได้ระดับ พื้น SPC มีความคงรูปดีกว่าวัสดุกลุ่มกระเบื้องยางอื่นๆ เช่น พื้นไวนิล (แต่ก็ด้วยความแข็งก็จะเปราะกว่า จึงต้องระมัดระวังขณะขนส่ง) ทำความสะอาดง่ายด้วยผ้าหมาด พื้น SPC ลายไม้ดูแลง่ายเมื่อเทียบกับพื้นไม้จริง จึงเป็นที่นิยมสำหรับบ้านที่ต้องการลุคอบอุ่นแบบไม้ แต่ต้องการความสะดวกในการติดตั้งและดูแลรักษา . อ่านเพิ่มเติม: พื้นไวนิลคืออะไร ต่างกับพื้นลามิเนต พื้น SPC อย่างไร (ก็ลายไม้เหมือนกัน)\ . เลือกซื้อพื้น SPC กระเบื้องยาง SPC ลายไม้ ทั้งสินค้าและบริการติดตั้ง ด้วยทีมงานมืออาชีพแบบครบวงจร พร้อมรับข้อเสนอและโปรโมชันพิเศษได้ที่ SCGHOME.COM หรือ SCGHOME APP ติดต่อเรา โทร: 02-586-1222 Line: @scghome E-mail-contact@scg.com เวลาทำการ จันทร์-อาทิตย์ เวลา 08:00 - 17:30 น.
ทำความรู้จักพื้น SPCหรือกระเบื้องยาง SPCอีกวัสดุทางเลือกสำหรับปูพื้นลายไม้ในบ้าน ให้ลุคอบอุ่นสวยงามคล้ายไม้จริง แต่ดูแลรักษาง่ายกว่า พร้อมทั้งข้อดีและข้อคำนึงที่เจ้าของบ้านควรรู้ พื้น SPC คืออะไร พื้น SPC (Stone Plastic Composite)\เป็นกระเบื้องยางลายไม้ชนิดหนึ่ง ผลิตจากเม็ดพลาสติกผสมผงหิน แผ่นวัสดุแข็งคงรูป ไม่อ่อนตัว ความหนาอยู่ที่ 3-5 มม. ขนาดโดยทั่วไปประมาณ 18 x 120 ซม. ลวดลายสวยคล้ายไม้จริง มีหลากลาย หลายสีให้เลือก Singleimage ขนาดไม้พื้น กระเบื้องยาง SPC ภาพ: ขนาดทั่วไปของไม้พื้น SPC สนใจ พื้น SPC พร้อมติดตั้ง โดยทีมช่างจากแพลตฟอร์มคิวช่าง คลิก\ เหมาะกับการใช้งานแบบไหน พื้น SPC หรือกระเบื้องยาง SPC เหมาะกับใช้ปูพื้นภายในที่เป็นส่วนพื้นที่แห้งเท่านั้น แม้ตัววัสดุจะทนชื้นได้ แต่ไม่ควรปูพื้นภายนอก หรือพื้นห้องน้ำโดยเฉพาะโซนเปียก เพราะอาจเกิดเชื้อราใต้แผ่นไม้พื้น พื้น SPC ใช้ปูบนพื้นที่เรียบได้ระดับเสมอกัน (ระดับต่างกันไม่เกิน 1 มม.) เช่น พื้นปูนขัดมัน พื้นซีเมนต์บอร์ด (ไม้อัดซีเมนต์/ ไฟเบอร์ซีเมนต์) พื้นไม้ปาร์เกต์ พื้นกระเบื้องเซรามิก ที่อยู่ในสภาพดี ไม่มีปัญหาเรื่องความชื้น ไม่แตก ไม่กระเดิด ไม่หลุดล่อน พื้น SPC มีข้อดีอย่างไร 1) ผิวหน้าสวยเหมือนไม้จริง ผิวสัมผัสดี ไม่ลื่น ผิวหน้าพิมพ์ลวดลายและทำผิวสัมผัสที่ดูเป็นธรรมชาติเสมือนไม้จริง มีให้เลือกหลายโทนสี จึงนำไปปรับใช้กับบ้านได้หลายสไตล์ ผิวสัมผัสดีกว่า เรียบเนียนกว่าพื้นไม้จริงหรือพื้นไม้ลามิเนตทั่วไป และไม่ลื่น Singleimage ปูพื้น SPC ภายในบ้าน กระเบื้องยาง SPC ภาพ: ตัวอย่างการปูพื้น SPC หรือกระเบื้องยาง SPC ภายในบ้าน Singleimage ปูพื้น SPC ภายในบ้าน กระเบื้องยาง SPC ภาพ: ตัวอย่างการปูพื้น SPC หรือกระเบื้องยาง SPC ภายในบ้าน 2) ติดตั้งง่าย ติดตั้งสะดวกรวดเร็วไม่ต้องใช้กาว ด้วยระบบ Click Lock โดยปูแผ่นโฟมรองช่วยลดเสียงสะท้อน และเพิ่มความนุ่มเท้าขณะเดิน กรีดตัดได้ด้วยคัตเตอร์ รื้อเปลี่ยนได้ง่าย ใช้งานได้ทันทีหลังติดตั้ง พื้น SPC สามารถปูบนพื้นใหม่หรือปูทับวัสดุเดิมได้ จึงสะดวก ไม่ต้องรื้อพื้นเดิมออก เพียงแต่พื้นผิวเดิมที่จะปูทับควรมีลักษณะเรียบ ได้ระดับ Singleimage ปูพื้นกระเบื้องยาง SPC แบบคลิกล็อก Click Lock พร้อมโฟมรอง และตัดด้วยคัตเตอร์ ภาพ: การปูพื้น SPC ด้วยวิธี Click Lock ซึ่งทำได้ง่าย สะดวก และสามารถตัดได้ด้วยคัตเตอร์ 3) ทนกระแทก ทนรอยขีดข่วน พื้น SPC ทำจากเม็ดพลาสติกผสมหิน มีความแข็งแรง ไม่มีการยืดหดตัว ไม่บวมหรือโก่งตัว ทนแรงกระแทกและแรงกดทับได้สูง (แต่ไม่ทนของมีคม) มีชั้นฟิล์ม Wear Layer ป้องกันรอยขีดข่วน และเพิ่มความคงทนด้วย UV Coating ไม่ทำให้สีซีดจาง 4. ทนชื้น ทนแมลง พื้น SPC ไม่เป็นอาหารปลวก นอกจากนี้วัสดุ Wear Layer ชั้นบนสุดที่ช่วยป้องกันรอยขีดข่วนนั้น ยังช่วยให้พื้นผิวทนต่อความชื้นได้ดี หมดปัญหาเรื่องไม้บวม ส่วนประกอบกระเบื้องยาง SPC ภาพ: ส่วนประกอบของพื้น SPC 5) ดูแลรักษาง่าย ทำความสะอาดง่ายโดยเช็ดถูด้วยผ้าหมาด (ไม่ควรใช้ผ้าที่เปียกโชก) หลีกเลี่ยงการใข้น้ำยาชนิดต่างๆ เช่น น้ำยาล้างจาน ผงซักฟอก และไม่ควรใช้ Wax ขัดเคลือบผิว เพราะอาจจะกัดสารที่เคลือบอยู่บนพื้นผิววัสดุให้หลุดออกได้ Singleimage การทำความสะอาดพื้นปูกระเบื้องยาง SPC ภาพ: พื้น SPC ที่มีการเคลือบผิวหน้ากันน้ำ สามารถเช็ดทำความสะอาดได้ด้วยผ้าหมาด สนใจ พื้น SPC พร้อมติดตั้ง โดยทีมช่างจากแพลตฟอร์มคิวช่าง คลิก\ จะเห็นได้ว่า พื้น SCP หรือกระเบื้องยาง SPC เป็นอีกทางเลือกดีๆ สำหรับปูพื้นลายไม้ในบ้าน ไม่ว่าจะเป็นบ้านใหม่หรือบ้านเดิมที่อยากตกแต่งพื้นลุคใหม่ ด้วยข้อดีในเรื่องความสวยงามคล้ายไม้จริง การติดตั้งที่ง่ายและรวดเร็ว ความทนทาน การดูแลรักษาที่ไม่ยุ่งยาก อย่างไรก็ตาม เจ้าของบ้านควรคำนึงถึงข้อจำกัดบางประการ เช่น พื้นที่ใช้งานควรเป็นพื้นที่แห้งภายในบ้าน การเตรียมพื้นผิวให้เรียบก่อนการติดตั้ง รวมถึงควรหลีกเลี่ยงและการสัมผัสน้ำยาทำต่างๆ ทั้งนี้ การพิจารณาข้อดีและข้อควรระวังอย่างรอบคอบจะช่วยให้การเลือกใช้ไม้พื้น SPC เป็นไปอย่างเหมาะสมและตอบโจทย์ความต้องการของผู้อยู่อาศัยได้อย่างดี อ่านเพิ่มเติม: 5 วัสดุปูพื้นลายไม้ เปลี่ยนพื้นในบ้านใหม่ลดความแข็ง-ลื่น คืนความอบอุ่น\
รวมถามตอบ กระเบื้องหลังคาเซรามิก เอสซีจี แตกต่างกับกระเบื้องหลังคาประเภทอื่นอย่างไร ทำไมบ้านที่เลือกใช้ถึงดูใหม่อยู่เสมอ แล้วมีให้เลือกกี่รุ่น ช่วยทำให้บ้านเย็นจริงมั้ย รวมถึงราคาวัสดุ อุปกรณ์และค่าแรงติดตั้ง . สารบัญบทความ 1) กระเบื้องหลังคาเซรามิกต่างกับกระเบื้องหลังคาประเภทอื่นอย่างไร/มีข้อดีหรือจุดเด่นอะไร? 2) ทำไมบ้านที่เลือกใช้กระเบื้องหลังคาเซรามิกถึงดูใหม่และสวยงามอยู่เสมอ? 3) กระเบื้องหลังคาเซรามิก เอสซีจี มีให้เลือกกี่รุ่น (แต่ละรุ่นแตกต่างกันอย่างไร) มีให้เลือกกี่สี? 4) กระเบื้องหลังคาเซรามิกจะแตกง่ายเหมือนกับกระเบื้องปูพื้น/ผนังมั้ย? 5) กระเบื้องหลังคาเซรามิกทำให้บ้านเย็นจริงมั้ยเมื่อเทียบกับหลังคาประเภทอื่น? 6) กระเบื้องหลังคาเซรามิก 1 ตร.ม. ใช้กี่แผ่น? 7) กระเบื้องหลังคาเซรามิก เอสซีจี ติดตั้งที่ความลาดชันกี่องศา? 8) ราคากระเบื้องหลังคาเซรามิก รวมอุปกรณ์ และค่าแรงติดตั้ง ประมาณกี่บาท/ตร.ม.? 9) ทำไมกระเบื้องหลังคาเซรามิก เอสซีจี รุ่นเอ็กซ์เซลล่า (EXCELLA) จึงมีราคาสูงกว่ากระเบื้องหลังคาเซรามิก เอสซีจี รุ่นเซลิกา เคิร์ฟ (CELICA CURVE)? . 1) กระเบื้องหลังคาเซรามิกต่างกับกระเบื้องหลังคาประเภทอื่นอย่างไร/มีข้อดีหรือจุดเด่นอะไร? กระเบื้องหลังคาเซรามิกถือเป็นวัสดุคุณภาพระดับพรีเมียม ทั้งสวยและทนทาน ดูใหม่อยู่ตลอดเวลาแม้ผ่านไปนานหลายสิบปี ซึ่งแตกต่างกับกระเบื้องหลังคาประเภทอื่น ตัววัสดุผลิตจากดินเหนียวคุณภาพสูง ผ่านกระบวนการขึ้นรูปด้วยแรงอัดสูงเพื่อให้ได้เนื้อแน่น และเผาที่อุณหภูมิสูงถึง 1,100°C ทำให้เนื้อกระเบื้องแข็งแรงและดูดซึมน้ำน้อย จากนั้นจะเคลือบผิวด้วยสารเคลือบเซรามิก (Glaze) แล้วเผาซ้ำอีกครั้ง เพื่อให้ได้ผิวเรียบเนียน สีสวยเงางาม และคงทนต่อรังสี UV จุดเด่นที่ชัดเจนของกระเบื้องหลังคาเซรามิกที่น่าสนใจ คือ . สวยงามหรูหรา สีไม่ซีดจาง ผิวเคลือบเงาเรียบเนียน สีสวยสดแม้ผ่านแดดฝนหลายปี เหมาะกับบ้านที่ต้องการความหรูดูทันสมัย . ทนแดด ทนฝน ไม่ดูดซึมน้ำ เนื้อกระเบื้องแน่น ไม่อมความชื้น ช่วยลดปัญหาคราบและเชื้อราบนหลังคา . อายุการใช้งานยาวนาน ด้วยกระบวนการเผาอุณหภูมิสูง ทำให้กระเบื้องแข็งแรง ไม่เปราะหรือแตกร้าวง่าย ใช้งานได้ยาวนานกว่า 30 ปี . ช่วยสะท้อนความร้อน มีค่านำความร้อนต่ำ ทำให้ดูดซับความร้อนน้อย และคลายความร้อนได้เร็ว บางรุ่นเคลือบผิวแบบพิเศษ ช่วยสะท้อนแสงแดด ทำให้ภายในบ้านเย็นขึ้นและประหยัดพลังงาน . กระเบื้องหลังคาเซรามิก เอสซีจี มีความเงางาม ภาพ: กระเบื้องหลังคาเซรามิก เอสซีจี มีความเงางามสีสวยสะท้อนแสงแดดเมื่อเทียบกับหลังคาประเภทอื่นๆ . 2) ทำไมบ้านที่เลือกใช้กระเบื้องหลังคาเซรามิกถึงดูใหม่และสวยงามอยู่เสมอ? เพราะผิวเคลือบของกระเบื้องหลังคาเซรามิกมีลักษณะมันวาวสะท้อนแสงจึงช่วยให้หลังคาดูโดดเด่นในทุกมุมมอง โดยเฉพาะเมื่อแสงแดดส่องจะเห็นความเงางามที่ให้ความรู้สึก “บ้านใหม่” อยู่เสมอ นอกจากนั้นแล้วผิวที่เรียบเงาทำให้ฝุ่นไม่เกาะติดง่าย เมื่อฝนตกก็เหมือนมีการล้างหลังคาไปในตัว ทำให้หลังคาดูสะอาดสดใส และตัวเนื้อวัสดุที่แน่นมีอัตราการดูดซึมน้ำต่ำมากจึงไม่เกิดปัญหาคราบดำ เชื้อรา หรือคราบตะไคร่เขียวตามรอยต่อหลังคาช่วยให้บ้านดูใหม่แม้ผ่านไปหลายปี ผิวของกระเบื้องหลังคาเซรามิกมีความเรียบเงา ภาพ: ผิวของกระเบื้องหลังคาเซรามิกมีความเรียบเงาทำให้ฝุ่นไม่เกาะติดง่ายจึงดูใหม่อยู่เสมอ . 3) กระเบื้องหลังคาเซรามิก เอสซีจี มีให้เลือกกี่รุ่น (แต่ละรุ่นแตกต่างกันอย่างไร) มีให้เลือกกี่สี? หลักๆ จะแบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือรุ่นเอ็กซ์เซลล่า (EXCELLA) ที่มีคอลเลกชันให้เลือกหลากหลายทั้งแบบรูปลอนและแผ่นเรียบเพื่อตอบโจทย์ตามความชอบของเจ้าของบ้าน และรุ่นเซลิกา เคิร์ฟ (CELICA CURVE) ที่มีลักษณะเป็นรูปลอนแบบใหม่ . กระเบื้องหลังคาเซรามิก เอสซีจี รุ่นเอ็กซ์เซลล่า คลาสสิก (Excella Classic) รูปลอนมาตรฐาน เหมาะกับบ้านสไตล์ยุโรป คลาสสิก บ้านสไตล์ร่วมสมัย รวมถึงบ้านสไตล์โมเดิร์นด้วยเช่นกัน มีทั้งหมด 12 สี ได้แก่ สีกรีน เพริดอท, สีกรีนเจไดท์, สีคริสตัล บลู, สีไดมอนด์ เกรย์, สีทิมเบอร์ บราวน์, สีคาเนเลียนบราวน์, สีบลู คอร์เดียร์, สีเรด การ์เนต, สีเรด แซปไฟร์, สีไวท์ เพิร์ล, สีเยลโลแซปไฟร์ และ สีออบสิเดียน เกรย์ เอ็กซ์เซลล่า คลาสสิก ภาพ: กระเบื้องหลังคาเซรามิก เอสซีจี รุ่นเอ็กซ์เซลล่า คลาสสิก (Excella Classic) . กระเบื้องหลังคาเซรามิก เอสซีจี รุ่นเอ็กซ์เซลล่า เกรซ (Excella Grace) รูปลอนมาตรฐาน เหมาะกับบ้านสไตล์ยุโรป คลาสสิก บ้านสไตล์ร่วมสมัย รวมถึงบ้านสไตล์โมเดิร์นด้วยเช่นกัน มีทั้งหมด 12 สี ได้แก่ สีกรีน เพริดอท, สีกรีนเจไดท์, สีคริสตัล บลู, สีไดมอนด์ เกรย์, สีทิมเบอร์ บราวน์, สีคาเนเลียนบราวน์, สีบลู คอร์เดียร์, สีเรด การ์เนต, สีเรด แซปไฟร์, สีไวท์ เพิร์ล, สีเยลโลแซปไฟร์ และ สีออบสิเดียน เกรย์ เอ็กซ์เซลล่า เกรซ ภาพ: กระเบื้องหลังคาเซรามิก เอสซีจี รุ่นเอ็กซ์เซลล่า เกรซ (Excella Grace) . กระเบื้องหลังคาเซรามิก เอสซีจี รุ่นเอ็กซ์เซลล่า โมเดิร์น (Excella Modern) กระเบื้องหลังคาแผ่นเรียบ เหมาะกับบ้านสไตล์โมเดิร์น และบ้านสไตล์ร่วมสมัยที่ต้องการลุคทันสมัยยิ่งขึ้น มีทั้งหมด 7 สี ได้แก่ สีโคโค่บราวน์, สีซิลเวอร์เกรย์, สีแพลทตินั่ม, สีคอปเปอร์บราวน์, สีโอลีฟ กรีน, สีออบซิเดียน เกรย์ และ สีเกรย์ แมต เอ็กซ์เซลล่า โมเดิร์น ภาพ: กระเบื้องหลังคาเซรามิก เอสซีจี รุ่นเอ็กซ์เซลล่า โมเดิร์น (Excella Modern) . กระเบื้องหลังคาเซรามิก เอสซีจี รุ่นเอ็กซ์เซลล่า เครสต้า (Excella Cresta) กระเบื้องหลังคาแผ่นเรียบ พิมพ์ลวดลายและสีเหมือนหินธรรมชาติ ด้วยเทคโนโลยีการพิมพ์ลายระบบดิจิทัลบนผืนหลังคา (Digital Printing Technology) เหมาะกับบ้านทุกสไตล์ที่ต้องการสร้างเอกลักษณ์โดดเด่น มีทั้งหมด 4 สี ได้แก่ สี SABANA WHITE, สี SABANA BLACK, สี CLAY และ สีเพทราเกรย์ เอ็กซ์เซลล่า เครสต้า ภาพ: กระเบื้องหลังคาเซรามิก เอสซีจี รุ่นเอ็กซ์เซลล่า เครสต้า (Excella Cresta) . กระเบื้องหลังคาเซรามิก เอสซีจี รุ่นเซลิกา เคิร์ฟ (Celica Curve) รูปลอนโค้งมนแบบใหม่ ดูเบาบางขึ้น พื้นผิวมันแต่ไม่เงามากนัก เหมาะกับบ้านสไตล์ร่วมสมัย และบ้านสไตล์อื่นๆ ได้หลากหลาย มีทั้งหมด 5 สี ได้แก่ สีวู้ดเดน บราวน์, สีชาโคล เกรย์, สีเพิร์ลลี่ เกรย์, สีเรด ไวน์ และ สีดีพ บลู เซลิกา เคิร์ฟ ภาพ: กระเบื้องหลังคาเซรามิก เอสซีจี รุ่นเซลิกา เคิร์ฟ (Celica Curve) . นอกจากนั้นแล้วยังมี กระเบื้องหลังคาเซรามิก เอสซีจี รุ่นคลาสสิคไทย ลักษณะเป็นกระเบื้องเกล็ดปลา เหมาะกับบ้านทรงไทย ไทยประยุกต์ ตลอดจนหลังคาโบสถ์ และศาลาวัด มีทั้งหมด 5 สี ได้แก่ สีแดงเจิดจรัส, สีน้ำตาลรัศมี, สีเหลืองกัลยา, สีเขียวมณีนิล, สีน้ำเงินแพรพรรณ และ สีขาวพราวนภา คลาสสิคไทย ภาพ: กระเบื้องหลังคาเซรามิก เอสซีจี รุ่นคลาสสิคไทย . 4) กระเบื้องหลังคาเซรามิกจะแตกง่ายเหมือนกับกระเบื้องปูพื้น/ผนังมั้ย? ไม่แตกง่ายเหมือนกระเบื้องปูพื้น/ผนัง เพราะมีความหนามากกว่า และเผาด้วยอุณหภูมิสูงมากทำให้เนื้อกระเบื้องมีความหนาแน่นสูง แข็งแรง และทนต่อแรงกระแทก นอกจากนี้ ยังถูกออกแบบมาให้รองรับแรงกด/แรงลมได้ดี ที่สำคัญคือผ่านการทดสอบมาตรฐานโรงงาน เช่น การทดสอบแรงดันน้ำฝน การรับแรงเหยียบ และอุณหภูมิสูงต่ำสลับกัน เพื่อให้แน่ใจว่าใช้งานได้ยาวนานในสภาพจริง อย่างไรก็ตามถึงแม้จะไม่เปราะเหมือนกระเบื้องปูพื้น/ผนัง แต่ก็ไม่ควรเดินบนแผ่นกระเบื้องหลังคาโดยตรง เพราะน้ำหนักตัวที่กดลงเฉพาะจุดอาจทำให้แตกได้ หากจำเป็นต้องขึ้นไปทำงานบนหลังคา ควรใช้แผ่นไม้รองน้ำหนักหรือให้ช่างที่ชำนาญขึ้นไปแทนจะปลอดภัยกว่า . 5) กระเบื้องหลังคาเซรามิกทำให้บ้านเย็นจริงมั้ยเมื่อเทียบกับหลังคาประเภทอื่น? ด้วยผิวเคลือบเซรามิก (Glaze) ซึ่งทำให้ผิวเรียบและมันเงา ช่วยสะท้อนรังสีความร้อนจากแสงแดดได้ดีกว่ากระเบื้องที่ผิวด้าน เช่น กระเบื้องหลังคาคอนกรีตหรือกระเบื้องหลังคาดินเผา ส่งผลให้ความร้อนซึมผ่านหลังคาเข้าบ้านน้อยลง และด้วยเนื้อกระเบื้องหนาแน่น ไม่ดูดซึมน้ำหรือความชื้น เมื่อฝนตกหรืออากาศร้อนจัด เนื้อกระเบื้องเซรามิกจะไม่อมความชื้นหรือความร้อน ต่างจากกระเบื้องคอนกรีตที่ดูดซึมน้ำได้ดีกว่า เมื่อแดดออกกระเบื้องคอนกรีตจะคายความร้อนช้าทำให้บ้านร้อนนาน ในขณะที่กระเบื้องเซรามิกจะคายความร้อนได้ไวกว่าบ้านจึงเย็นเร็วกว่า . 6) กระเบื้องหลังคาเซรามิก 1 ตร.ม. ใช้กี่แผ่น? กระเบื้องหลังคาเซรามิก เอสซีจี มีจำนวนการใช้งาน 10.5 แผ่น/ตร.ม. ดังนั้นพื้นที่หลังคา 1 ตร.ม. ควรซื้อ 11 แผ่น แต่หากบ้านมีรูปทรงหลังคาค่อนข้างซับซ้อนอาจเผื่อไว้ตัดและชำรุดเพิ่มอีก 10–15% ยกตัวอย่างเช่น หลังคามีพื้นที่ 150 ตร.ม. คิดเป็น 150x11 = 1,650 แผ่น เผื่อไว้อีก 10% ต้องซื้อกระเบื้องหลังคาเซรามิกจำนวน 1,815 แผ่น หลังคาที่มีความซ้ำซ้อน ภาพ: หลังคาที่มีความซ้ำซ้อนควรคำนวนจำนวนแผ่นกระเบื้องหลังคาเผื่อไว้ 10–15% . 7) กระเบื้องหลังคาเซรามิก เอสซีจี ติดตั้งที่ความลาดชันกี่องศา? ด้วยผิวเคลือบเซรามิก (Glaze) ซึ่งทำให้ผิวเรียบและมันเงา ช่วยสะท้อนรังสีความร้อนจากแสงแดดได้ดีกว่ากระเบื้องที่ผิวด้าน เช่น กระเบื้องหลังคาคอนกรีตหรือกระเบื้องหลังคาดินเผา ส่งผลให้ความร้อนซึมผ่านหลังคาเข้าบ้านน้อยลง และด้วยเนื้อกระเบื้องหนาแน่น ไม่ดูดซึมน้ำหรือความชื้น เมื่อฝนตกหรืออากาศร้อนจัด เนื้อกระเบื้องเซรามิกจะไม่อมความชื้นหรือความร้อน ต่างจากกระเบื้องคอนกรีตที่ดูดซึมน้ำได้ดีกว่า เมื่อแดดออกกระเบื้องคอนกรีตจะคายความร้อนช้าทำให้บ้านร้อนนาน ในขณะที่กระเบื้องเซรามิกจะคายความร้อนได้ไวกว่าบ้านจึงเย็นเร็วกว่า ตัวอย่างงานปูกระเบื้องหลังคาเซรามิก เอสซีจี ที่มีความลาดชันไม่มาก ภาพ: ตัวอย่างงานปูกระเบื้องหลังคาเซรามิก เอสซีจี ที่มีความลาดชันไม่มาก ตัวอย่างงานปูกระเบื้องหลังคาเซรามิก เอสซีจี ที่มีความลาดชันมาก ภาพ: ตัวอย่างงานปูกระเบื้องหลังคาเซรามิก เอสซีจี ที่มีความลาดชันมาก . 8) ราคากระเบื้องหลังคาเซรามิก รวมอุปกรณ์ และค่าแรงติดตั้ง ประมาณกี่บาท/ตร.ม.? กลุ่มหลังคากระเบื้องเซรามิกอยู่ที่ 700-1,500 บาท/ตร.ม. หากรวมวัสดุ อุปกรณ์ และค่าแรงติดตั้งด้วย จะอยู่ที่ 1,850-2,200 บาท/ตร.ม. อยู่ที่รูปทรงของหลังคาและความยากง่ายของการติดตั้งด้วย (ข้อมูล ณ ปี พ.ศ. 2568) . 9) ทำไมกระเบื้องหลังคาเซรามิก เอสซีจี รุ่นเอ็กซ์เซลล่า (EXCELLA) จึงมีราคาสูงกว่ากระเบื้องหลังคาเซรามิก เอสซีจี รุ่นเซลิกา เคิร์ฟ (CELICA CURVE)? เพราะกระเบื้องหลังคาเซรามิก เอสซีจี รุ่นเอ็กซ์เซลล่า (EXCELLA) มีกระบวนการผลิตที่ทำให้ผิวหน้าวัสดุมีความเงามันวาวมากกว่า และมีความหนามากกว่ากระเบื้องหลังคาเซรามิก เอสซีจี รุ่นเซลิกา เคิร์ฟ (CELICA CURVE) ซึ่งจริงๆ แล้วทั้งสองรุ่นถูกออกแบบมาให้ตอบโจทย์ที่ต่างกัน . กระเบื้องหลังคาเซรามิก เอสซีจี รุ่นเอ็กซ์เซลล่า (EXCELLA)\ เป็นกระเบื้องหลังคาเซรามิกระดับพรีเมียม ที่ผ่านกระบวนการผลิตและการเคลือบผิวขั้นสูง เนื้อกระเบื้องจึงแน่น แข็งแรง ดูดซึมน้ำน้อย และมีผิวเคลือบเงาละเอียดที่ให้สีสวยหรูคงทนไม่ซีดจางง่าย อีกทั้งยังมีเฉดสีพิเศษและผิวสัมผัสที่หลากหลาย เหมาะกับบ้านที่ต้องการความหรูหราและโดดเด่นเหนือระดับ . ในขณะที่ กระเบื้องหลังคาเซรามิก เอสซีจี รุ่นเซลิกา เคิร์ฟ (CELICA CURVE)\ ถูกออกแบบให้มีคุณภาพมาตรฐานในราคาที่เข้าถึงง่ายกว่า ใช้วัสดุเซรามิกคุณภาพดีเช่นกัน แต่เน้นความเรียบง่ายและคุ้มค่าในการติดตั้ง เหมาะสำหรับบ้านสมัยใหม่ที่ต้องการความสวยเนี้ยบและประสิทธิภาพในงบที่ประหยัดกว่า . เอ็กซ์เซลล่า มีความหนามากกว่า รุ่นเซลิกา ภาพ: กระเบื้องหลังคาเซรามิก เอสซีจี รุ่นเอ็กซ์เซลล่า มีความหนามากกว่า รุ่นเซลิกา เคิร์ฟ . สนใจ กระเบื้องหลังคาเซรามิก เอสซีจี คลิก\ . เมื่อพูดถึงหลังคาบ้านหลายคนอาจนึกถึงความแข็งแรงและการกันฝนเป็นหลัก แต่ในความจริงหลังคายังเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยเพิ่มความสวยงามและมูลค่าของบ้านได้อย่างมาก โดยเฉพาะ กระเบื้องหลังคาเซรามิก เอสซีจี ที่ถือเป็นวัสดุคุณภาพระดับพรีเมียม ทั้งสวย ทั้งทน และดูใหม่ยาวนานหลายสิบปี . SCGHOME.COM มีบริการติดตั้งหลังคาบ้านโดยช่างผู้เชี่ยวชาญ สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมและจองสำรวจได้ ที่นี่\ . . อ่านเพิ่มเติม: กระเบื้องหลังคามีกี่แบบ "แบบแผ่นเรียบ" กับ "แบบลอน" แบบไหนใช้ดีกว่า\ . อ่านเพิ่มเติม: มุงหลังคาบ้านสวยร่วมสมัย ประหยัดพลังงาน กับกระเบื้องหลังคาเซรามิก เอสซีจี รุ่น Celica Curve\
รวมถามตอบเกี่ยวกับระบบระบายอากาศ SCG Active AIRflow™ System ไม่ว่าจะเป็นหลักการทำงาน การใช้งาน เหมาะจะติดตั้งกับบ้านแบบไหนการติดตั้ง ดูแลรักษาอย่างไร เป็นต้น สารบัญบทความ >1) ระบบระบายอากาศ SCG Active AIRflow™ System มีหลักการทำงานอย่างไร? >2) ระบบระบายอากาศ SCG Active AIRflow™ System แตกต่างกับลูกหมุนระบายอากาศอย่างไร? >3) บ้านที่มีการติดตั้งระบบระบายอากาศ SCG Active AIRflow™ System มีข้อดีแตกต่างกับบ้านที่ทั่วไปที่ไม่ได้ติดตั้งอย่างไร? >4) การลดความร้อนในบ้าน หากใช้การติดตั้งฉนวนกันความร้อนอย่างเดียว จะเพียงพอหรือไม่? >5) ระบบระบายอากาศ SCG Active AIRflow™ System เหมาะสำหรับติดตั้งในบ้าน หรือที่อยู่อาศัยแบบใด? >6) SCG Active AIRflow™ System มีกี่แบบให้เลือก? >7) หลังจากที่เราติดตั้งระบบระบายอากาศ SCG Active AIRflow™ System ไปแล้วจะมีวิธีดูแลรักษาอย่างไร? >8) SCG Active AIRflow™ System ต้องใช้ไฟฟ้าในการเดินระบบ จะกินไฟมากน้อยแค่ไหน? >9) อุปกรณ์ที่ติดอยู่บนหลังคา จะมีกลไกป้องกันไม่ให้แมลงหรือสัตว์ต่างๆ เข้ามาได้อย่างไร? >10) หากเราจะเปิดแอร์ จะต้องทำการปิดระบบระบายอากาศ SCG Active AIRflow™ System ก่อนหรือไม่? 1) ระบบระบายอากาศ SCG Active AIRflow™ System มีหลักการทำงานอย่างไร? ระบบนี้ทำงานโดยการดึงอากาศจากภายนอกเข้ามาในบ้านผ่านช่องลมเข้า (Intake Air Grille) ที่ผนัง ซึ่งมีตัวกรองสำหรับกรองฝุ่น PM 10, PM 2.5 และแมลง ได้ จากนั้นอุปกรณ์ Ceiling Ventilator ที่ติดตั้งบนฝ้าเพดาน ก็จะดูดเอาอากาศอากาศในบ้านขึ้นโถงหลังคา แล้วถ่ายเทออกไปนอกบ้านผ่านอุปกรณ์ Smart Roof Ventilator ที่อยู่บนหลังคา เป็นการดูดเอาอากาศร้อนและความชื้นผ่านออกทางโถงหลังคาซึ่งเป็นส่วนที่ร้อนที่สุดของบ้าน (สอดคล้องกับหลักการธรรมชาติที่ความร้อนจะลอยตัวสูงขึ้น) Singleimage การทำงานระบบระบายอากาศ SCG Active AIRflow System ภาพ: หลักการทำงานของระบบระบายอากาศ SCG Active AIRflow™ System 2) ระบบระบายอากาศ SCG Active AIRflow™ System แตกต่างกับลูกหมุนระบายอากาศอย่างไร? ลูกหมุนระบายอากาศธรรมดาจะทำงานตามธรรมชาติโดยอาศัยการไหลเวียนของอากาศและความเร็วลมจากภายนอก ต่างกันกับระบบ SCG Active AIRflow™ System ซึ่งจะมี Smart Control Box เซนเซอร์วัดอุณหภูมิ และ Timer คอยควบคุมการทำงานของระบบให้เหมาะสมกับสภาพอากาศภายในบ้านอยู่ตลอด จึงสามารถระบายความร้อนและความชื้นออกจากบ้านได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่า Singleimage พัดลมฟักทองลูกหมุนระบาย ภาพ: ตัวอย่างพัดลมลูกหมุนระบายอากาศที่ติดตั้งบนหลังคา 3) บ้านที่มีการติดตั้งระบบระบายอากาศ SCG Active AIRflow™ System มีข้อดีแตกต่างกับบ้านที่ทั่วไปที่ไม่ได้ติดตั้งอย่างไร? บ้านที่ติดตั้งระบบ SCG Active AIRflow™ System จะมีการเร่งอัตราการระบายอากาศในบ้านได้มากขึ้น ทำให้ไม่ร้อนอบอ้าว ลดปัญหาการสะสมความชื้นกลิ่นอับ สารก่อภูมิแพ้ในบ้าน สิ่งสำคัญคือช่วยลดอุณหภูมิในโถงหลังคาซึ่งเป็นจุดที่ร้อนที่สุด ทำให้อุณหภูมิภายในบ้านลดลง เครื่องปรับอากาศจึงทำงานน้อยลง ช่วยประหยัดพลังงานได้ ส่วนบ้านที่ไม่ได้ติดตั้ง SCG Active AIRflow™ System ก็จะร้อนอบอ้าวกว่า อาจเกิดปัญหาเรื่องกลิ่นอับและสารก่อภูมิแพ้ได้มากกว่า ติดตั้ง ระบบระบายอากาศ SCG Active AIRflow™ System คลิก\ 4) การลดความร้อนในบ้าน หากใช้การติดตั้งฉนวนกันความร้อนอย่างเดียว จะเพียงพอหรือไม่? ฉนวนกันความร้อน\มีหน้าที่ “ช่วยป้องกันความร้อนจากภายนอกเข้าสู่ตัวบ้าน” ซึ่งในความเป็นจริงก็จะยังมีความร้อนบางส่วนที่เข้ามาในบ้านได้ รวมถึงความร้อนสะสมที่เกิดจากเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน หากไม่ได้ระบายออก ก็จะถูกฉนวนกันความร้อนกักเก็บเอาไว้เช่นกัน (คล้ายกับกระติกน้ำร้อน) การติดตั้งระบบ SCG Active AIRflow™ System จะดึงเอาความร้อนสะสมที่อยู่ภายในบ้านและในโถงหลังคาระบายออกไป ดังนั้นเมื่อใช้คู่กับฉนวนกันความร้อน ก็จะช่วยส่งเสริมให้บ้านเย็นสบายยิ่งขึ้น จึงนับว่าดีกว่าเมื่อเทียบกับการใช้ฉนวนกันความร้อนเพียงอย่างเดียว Singleimage การใช้ฉนวนกันความร้อนร่วมกับ SCG Active Airflow System ภาพ: ตัวอย่างการติดตั้งฉนวนกันความร้อนที่ฝ้าเพดานชั้นบน ควบคู่กับระบบระบายอากาศที่ช่วยดูดเอาความร้อนในโถงหลังคาออกไปได้ 5) ระบบระบายอากาศ SCG Active AIRflow™ System เหมาะสำหรับติดตั้งในบ้าน หรือที่อยู่อาศัยแบบใด? เหมาะกับบ้านเดี่ยวหรือบ้านแฝด (กรณีเป็นทาวน์เฮ้าส์ ทาวน์โฮม ภายในโถงหลังคาจะต้องมีการกั้นแยกพื้นที่แยกกับเพื่อนบ้าน เพื่อไม่ให้อากาศในโถงหลังคาเชื่อมกัน) โดยบ้านชั้นเดียว ชั้นครึ่ง และ 2 ชั้น จะให้ประสิทธิภาพดีที่สุด กรณีเป็นบ้าน 3 ชั้น ก็สามารถติดตั้งได้จะต้องมีทางขึ้นหลังคาจากระเบียงชั้น 2 ด้วย ผนังบ้านควรก่อด้วยอิฐมอญหรืออิฐมวลเบา (หากเป็นผนัง Precast จะมีพิจารณาขั้นตอนติดตั้งเฉพาะเพิ่มเติม) ฝ้าเพดานควรเป็นแบบฉาบเรียบขนานกับพื้น เพื่อให้มีปริมาณอากาศในโถงหลังคาเหมาะสมการทำงานของระบบ ส่วนกระเบื้องหลังคาควรเป็นวัสดุคอนกรีตหรือเซรามิก (หากเป็นเมทัลชีทควรมีความชันมากกว่า 3 องศา) ทั้งนี้ก่อนใช้บริการจะต้องมีการสำรวจหน้างานโดยทีมงาน SCG เพื่อประเมินความเหมาะสมในการติดตั้งและนำเสนอแพ็กเกจที่เหมาะสม 6) SCG Active AIRflow™ System มีกี่แบบให้เลือก? หลักๆ จะแบ่งเป็นแพ็กเกจ Compact และแพ็กเกจ Premium โดยแพ็กเกจ Compact จะมี Timer สำหรับตั้งเวลาเพื่อควบคุมการทำงาน ส่วนแพ็กเกจ Premium จะทำงานอัตโนมัติตามอุณหภูมิในบ้านและโถงหลังคา โดยมีเซนเซอร์แสดงค่าอุณหภูมิ คาร์บอนไดออกไซด์ และ VOCs อยู่ 2 จุด คือในโถงหลังคาและตำแหน่งชั้น 2 ในบ้าน (เซนเซอร์ที่ชั้น 2 จะแสดงค่าฝุ่น PM2.5 ด้วย) สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่ คลิก\ 7) หลังจากที่เราติดตั้งระบบระบายอากาศ SCG Active AIRflow™ System ไปแล้วจะมีวิธีดูแลรักษาอย่างไร? Intake Air Grille: เป็นวัสดุพลาสติกใช้ผ้าเช็ดทำความสะอาดได้ ส่วนไส้กรองด้านในสามารถใช้เครื่องดูดฝุ่นทำความสะอาดได้ และควรเปลี่ยนแผ่นกรองทุก 4-6 เดือน Ceiling Ventilator: ควรดับไฟเพื่อความปลอดภัยก่อนจะทำความสะอาดโดยใช้ผ้าเช็ด เป่าด้วยพัดลม หรือใช้เครื่องดูดฝุ่นทำความสะอาด Smart Roof Tile Ventilator: เป็นอุปกรณ์ที่ติดตั้งบนหลังคา จึงทำความสะอาดค่อนข้างยาก ควรติดต่อผู้เชี่ยวชาญจาก SCG มาดำเนินการให้แทน Smart Control Box: เจ้าของบ้านไม่ควรแกะออกมาเพราะเสี่ยงอันตราย หากโดนความชื้นอาจทำให้ไฟฟ้าลัดวงจรได้ แนะนำให้เช็ดทำความสะอาดภายนอกรวมถึงสังเกตการทำงานของพัดลม Ceiling Ventilator ซึ่งจะตรวจสอบได้ง่ายผ่าน Application หากเป็นแพ็กเกจที่มีการแสดงสถานะเชื่อมต่อกับ Wi-Fi ติดตั้ง ระบบระบายอากาศ SCG Active AIRflow™ System คลิก\ 8) SCG Active AIRflow™ System ต้องใช้ไฟฟ้าในการเดินระบบ จะกินไฟมากน้อยแค่ไหน? ระบบใช้พลังงานไฟฟ้าไม่มาก โดย Ceiling Ventilator ใช้ไฟประมาณ 20-23 วัตต์ และ Smart Roof Tile Ventilator ใช้ประมาณ 5 วัตต์ โดยรวมแล้วจะใช้ค่าไฟจะอยู่ที่ประมาณ 100-200 บาทต่อเดือน ยกตัวอย่างบ้านขนาด 170 ตร.ม. ติดตั้ง Ceiling Ventilator 1 จุด และ Smart Roof Tile Ventilator 2 จุด อาจใช้ค่าไฟประมาณ 85-90 บาทต่อเดือน ซึ่งถือว่าคุ้มค่าเมื่อเทียบกับอากาศที่เย็นสบายขึ้นและช่วยลดภาระการทำงานของแอร์ 9) อุปกรณ์ที่ติดอยู่บนหลังคา จะมีกลไกป้องกันไม่ให้แมลงหรือสัตว์ต่างๆ เข้ามาได้อย่างไร? บริเวณ Smart Roof Tile Ventilator และ Intake Air Grill จะมีตะแกรงป้องกัน จึงมั่นใจได้ว่าจะไม่มีสัตว์หรือแมลงเข้าสู่ภายในบ้านผ่านระบบระบายอากาศ Singleimage ตะแกรงกันแมลงของระบบ SCG Active Airflow System ภาพ: ตะแกรงป้องกันแมลง สัตว์รบกวน ที่ติดตั้งมากับอุปกรณ์ต่างๆ 10) หากเราจะเปิดแอร์ จะต้องทำการปิดระบบระบายอากาศ SCG Active AIRflow™ System ก่อนหรือไม่? ขณะเปิดแอร์ แนะนำให้ปิดระบบ SCG Active AIRflow™ System ทั้งพัดลมระบายอากาศ Ceiling Ventilator และ Smart Roof Ventilator เพื่อป้องกันไม่ให้อากาศเย็นไหลออกจากบ้าน ส่วน Intake Air Grill ที่มีอุปกรณ์เปิด-ปิดแบบ Manual สามารถเลื่อนปิดช่องลมได้สนิท นอกจากนี้ หากภายนอกบ้านมีกลิ่นไม่พึงประสงค์ ฝุ่น หรือควัน ก็แนะนำให้ปิดทั้ง Intake Air Grill และพัดลมระบายอากาศด้วยเช่นกัน อ่านเพิ่มเติม: [บ้านเย็นประหยัดไฟด้วย Active AIRflow™ System ]( https://www.scghome.com/living-ideas/articles/บ้านเย็นประหยัดไฟด้วย--Active-AIRflow-System)\ ติดตั้ง ระบบระบายอากาศ SCG Active AIRflow™ System คลิก\
เล่าถึงการเตรียมพื้นที่และติดตั้งบล็อกปูพื้น หรือ ตัวหนอนปูพื้น เพื่อให้ได้พื้นภายนอกบ้านที่เรียบสวยทนนาน ไม่ต้องปวดหัวกับปัญหาบล็อกปูพื้นยุบเป็นหลุมบ่อยๆ >ปฏิเสธไม่ได้ว่า ในบรรดาวัสดุตกแต่งพื้นรอบบ้านที่มีให้เลือกมากมายนั้น บล็อกปูพื้น หรือที่บางคนเรียกว่า "ตัวหนอนปูพื้น" หรือ "บล็อกคอนกรีต" เป็นอีกหนึ่งในทางเลือกยอดฮิต ด้วยลวดลายสีสันที่สวยงาม เล่นแพทเทิร์นได้หลากหลาย ติดตั้งง่าย แต่เจ้าของบ้านบางท่านก็อาจยังลังเลเพราะเคยได้ยินมาว่า พอใช้บล็อกปูพื้นไปสักพักพื้นก็จะเริ่มเกิดปัญหาบล็อกปูพื้นยุบเป็นหลุม จริงๆ แล้วมันเป็นอย่างไร? เราจะมาพูดถึงประเด็นนี้กัน บล็อกปูพื้น บล็อกปูพื้น ตัวหนอนปูพื้น ปูตัวหนอน แผ่นทางเท้า บล็อกทางเดิน บล็อกปูถนน แผ่นปูทางเท้า scg landscape >ภาพ: บล็อกปูพื้น เอสซีจี รุ่น ทรีโอ้ บล็อกปูพื้นรอบบ้าน บล็อกปูพื้น ตัวหนอนปูพื้น ปูตัวหนอน แผ่นทางเท้า บล็อกทางเดิน บล็อกปูถนน แผ่นปูทางเท้า scg landscape >ภาพ: บล็อกปูพื้น เอสซีจี รวมลายต่างๆ สร้างแพทเทิร์นหลากหลาย สนใจ บล็อกและกระเบื้องคอนกรีตปูพื้น พร้อมบริการติดตั้ง คลิก\ บล็อกปูพื้นรอบบ้าน บล็อกปูพื้น ตัวหนอนปูพื้น ปูตัวหนอน แผ่นทางเท้า บล็อกทางเดิน บล็อกปูถนน แผ่นปูทางเท้า scg landscape >ภาพ: (บน) บล็อกปูพื้น เอสซีจี รุ่น Porous Block ระบายน้ำได้ในตัว และ (ล่าง) บล็อกปูพื้น รุ่น La Linear Cool Plus ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยลดความร้อนที่ผิวหน้า บล็อกปูพื้นรอบบ้าน บล็อกปูพื้น ตัวหนอนปูพื้น ปูตัวหนอน แผ่นทางเท้า บล็อกทางเดิน บล็อกปูถนน แผ่นปูทางเท้า scg landscape >ภาพ: บล็อกปูพื้น เอสซีจี รุ่น La Linear บล็อกปูพื้นรอบบ้าน บล็อกสนามหญ้า บล็อกปูพื้น ตัวหนอนปูพื้น ปูตัวหนอน แผ่นปูทางเท้า scg landscape >ภาพ: บล็อกปูพื้น เอสซีจี รุ่น เทิร์ฟ สามารถปลูกหญ้าแซมได้ สนใจ บล็อกและกระเบื้องคอนกรีตปูพื้น พร้อมบริการติดตั้ง คลิก\ >## ทำอย่างไรบล็อกปูพื้นจึงจะไม่ยุบ >บล็อกปูพื้นเป็นวัสดุที่มีความแข็งแกร่งมาก สามารถใช้ปูลงบนพื้นดินได้เลยโดยไม่ต้องหล่อพื้นคอนกรีตเสริมเหล็กรองรับ นับว่าสะดวกและประหยัดค่าหล่อพื้นไปได้ และนี่คืออีกคุณสมบัติดีๆ ที่เจ้าของบ้านหลายคนตัดสินใจเลือกใช้บล็อกปูพื้นในงานตกแต่งพื้นรอบบ้าน แต่ทั้งนี้ การนำบล็อกปูพื้นไปปูลงบนดินก็ย่อมหมายถึงการฝากความหวังเรื่องการรับน้ำหนักไว้กับพื้นดิน ดังนั้น เราจึงต้องใส่ใจเตรียมพื้นดินให้ถูกต้องตามคู่มือติดตั้ง เพื่อที่จะได้ไม่ต้องเผชิญปัญหาบล็อกปูพื้นยุบง่าย บล็อกปูพื้นรอบบ้าน บล็อกปูพื้น ตัวหนอนปูพื้น ปูตัวหนอน แผ่นทางเท้า บล็อกทางเดิน บล็อกปูถนน แผ่นปูทางเท้า scg landscape >ภาพ: บล็อกปูพื้น เอสซีจี รูปทรงต่างๆ >## เตรียมพื้นดินอย่างไรก่อนจะวางบล็อกปูพื้น >สิ่งสำคัญก็คือ จะต้องบดอัดดินให้แน่นมากที่สุด มีการวางขอบคันหินเพื่อป้องกันไม่ให้บล็อก ดิน ทราย ไหลออกด้านข้าง รวมถึงใช้แผ่นใยสังเคราะห์รองทรายโดยตลบหุ้มขอบในภายหลัง (ทำนองว่าห่อหุ้มทรายให้คงรูปไว้ ไม่ไหลแบะออกได้ง่ายเวลาเจอแรงกดจากการเหยียบ หรือน้ำหนักเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ) พอเตรียมพื้นดินเรียบร้อยแล้ว จึงค่อยวางบล็อกคอนกรีต ตามด้วยการโรยทรายในช่องว่างระหว่างบล็อกโดยมีน้ำยาประสานทรายช่วยให้คงรูปแน่นหนา ขั้นตอนติดตั้งบล็อกปูพื้น บล็อกปูพื้น ตัวหนอนปูพื้น ปูตัวหนอน แผ่นทางเท้า บล็อกทางเดิน บล็อกปูถนน แผ่นปูทางเท้า scg landscape >ภาพ: ขั้นตอนการติดตั้งบล็อกปูพื้น สนใจ บล็อกและกระเบื้องคอนกรีตปูพื้น พร้อมบริการติดตั้ง คลิก\ >## บล็อกปูพื้นยุบไปแล้ว แก้ไขได้ไหม >พื้นรอบบ้านที่ติดตั้งบล็อกปูพื้นไปแล้ว อาจยุบตัวลงได้เนื่องด้วยสาเหตุต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ขั้นตอนติดตั้งที่ไม่ครบถ้วน หรือด้วยสภาพพื้นดินที่ทำให้ยุบตัวง่าย เช่น เป็นพื้นที่เพิ่งถม หรือถมทับแหล่งน้ำบ่อบึง ดินชั้นบนเป็นดินเหนียวอ่อน (พบได้มากในแถบกรุงเทพและปริมณฑล) มีโพรงใต้ดิน สภาพน้ำใต้ดินเปลี่ยนแปลง เป็นต้น ทั้งนี้ หากพื้นยุบไปแล้วก็ไม่ต้องกังวล เพราะเราสามารถรื้อบล็อกปูพื้นออกเพื่อปรับหน้าดิน บดอัดให้แน่นตามขั้นตอนที่เล่าไปข้างต้น แล้วนำบล็อกชุดเดิมมาปูใหม่ได้อีกครั้ง และนี่คือข้อดีของการใช้บล็อกปูพื้นสำหรับพื้นรอบบ้านที่ทรุดตัวง่าย เมื่อเทียบกับการหล่อพื้นคอนกรีตเสริมเหล็กซึ่งอาจสิ้นเปลืองเวลาและค่าใช้จ่ายในการทุบรื้อทิ้งเยอะกว่ามาก พื้นรอบบ้านทรุด >ภาพ: พื้นคอนกรีตแตกร้าวจากการยุบตัวของพื้นดิน >จะเห็นได้ว่า การตกแต่งพื้นภายนอกบ้านด้วยบล็อกปูพื้นนั้น หากไม่อยากรื้อปูใหม่บ่อยๆ ก็ต้องยืดเวลาก่อนจะเกิดเหตุการณ์บล็อกปูพื้นยุบให้ได้มากที่สุด โดยติดตั้งให้ถูกวิธีและบดอัดดินแน่นๆ ทั้งนี้ หากต้องการเพิ่มความแข็งแรงของพื้นดินที่บดอัดเพื่อยืดเวลาให้นานยิ่งขึ้น อาจใช้ มอร์ตาร์เสริมแรงดินชนิดพิเศษ มาเป็นตัวช่วยเพิ่มแรง อย่างเช่น CPAC FLOW FILL MORTAR ของ เอสซีจี ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยชลอการทรุดตัว ติดตั้งเร็วกว่าการบดอัดหน้าดินและทุบรื้อถอนได้ง่ายกว่าการเทพื้นคอนกรีต นับเป็นอีกทางเลือกให้เจ้าของบ้านพิจารณาก่อนลงมือติดตั้งหรือปรับปรุงพื้นที่เตรียมปูบล็อกรอบใหม่ >อ่านเพิ่มเติม: ปูพื้นรอบบ้านด้วยบล็อกปูพื้นหรือกระเบื้องคอนกรีต ปูพื้นแบบไหนดี ? แก้ปัญหาพื้นรอบบ้านทรุด บล็อกปูพื้น CPAC FLOW FILL MORTAR SCG >ภาพ: จำลองลักษณะการวางบล็อกบน CPAC FLOW FILL MORTAR ของ เอสซีจี แก้ปัญหาพื้นรอบบ้านทรุด บล็อกปูพื้น CPAC FLOW FILL MORTAR SCG >ภาพ: ขั้นตอนการติดตั้ง CPAC FLOW FILL MORTAR สนใจ บล็อกและกระเบื้องคอนกรีตปูพื้น พร้อมบริการติดตั้ง คลิก\ >อ่านเพิ่มเติม: ปูพื้นรอบบ้านด้วยบล็อกปูพื้นหรือกระเบื้องคอนกรีตปูพื้น แบบไหนดี? >อ่านเพิ่มเติม: ไอเดียตกแต่งจัดสวนสวยให้ลงตัวกับทั้งเจ้าของบ้านและสัตว์เลี้ยงที่รัก >อ่านเพิ่มเติม: 5 เหตุผลน่าใช้ บล็อกปูพื้น และกระเบื้องคอนกรีตปูพื้น
การกั้นสัดส่วนห้องอาบน้ำนอกจากจะทำให้ห้องน้ำสวยงามแล้ว ยังช่วยในแง่ของความสะอาดและความปลอดภัย ปัจจุบันมีทั้งฉากกั้นห้องสำเร็จรูปที่ใช้งานได้สะดวกสบาย และงานดีไซน์ใหม่ที่ออกแบบให้เข้ากับพื้นที่ ด้วยวัสดุยอดนิยมที่เหมาะสมกับการใช้สอยในห้องน้ำ >ห้องน้ำที่ดีควรแยกส่วนเปียกกับส่วนแห้งเป็นสัดส่วน เพื่อความสะอาดปลอดภัย ช่วยลดอุบัติเหตุลื่นล้มเพราะคราบสบู่ วิธีที่ง่ายที่สุดคือการกั้นห้องอาบน้ำ ซึ่งทำได้หลายรูปแบบดังต่อไปนี้ >## 1. ผ้าม่านกั้นห้องอาบน้ำ >เป็นวิธีที่ประหยัดและสะดวกที่สุด เพราะหาซื้อได้ทั่วไป ติดตั้งง่ายและปรับเปลี่ยนได้ด้วยตนเอง มีทั้งแบบสีพื้นและลวดลายต่าง ๆ ควรเลือกวัสดุตัวม่านที่เคลือบกันน้ำไว้เพื่อป้องกันเชื้อราและคราบสกปรก หากเป็นผ้าม่านที่มาพร้อมราวแขวนสำเร็จรูป ควรเช็กความกว้างระหว่างผนังห้องน้ำที่ต้องการติดตั้งก่อนเลือกซื้อ เพราะอาจมีหลายระยะราวแขวนให้เลือกสรร เช่น 0.7 - 1.2 เมตร หรือ 1.2 - 2 เมตร เป็นต้น เอกลักษณ์หนึ่งของม่านกั้นห้องอาบน้ำคือสามารถทำรางดัดโค้งหรือฟรีฟอร์มได้ ผ้าม่านกั้นห้องอาบน้ำแบบรางตรง >ภาพ: ผ้าม่านกั้นห้องอาบน้ำแบบรางตรง ผ้าม่านกั้นห้องอาบน้ำแบบรางโค้ง >ขวา: ผ้าม่านกั้นห้องอาบน้ำแบบรางโค้ง >## 2. ฉากกั้นกระจกหรืออะคริลิก >คุณสมบัติของฉากกั้นอะคริลิกคือมีน้ำหนักเบา ปลอดภัย ราคาถูกและหาซื้อง่าย รองรับแรงกระแทกได้มากกว่ากระจกถึง 15 เท่า แต่ความสวยงามยังแพ้กระจกอยู่ ไม่โปร่งโล่งตาเท่า เมื่อใช้ไปนาน ๆ อาจเกิดคราบเหลืองบนผิวอะคริลิก ส่วนคุณสมบัติของกระจกกั้นห้องน้ำคือรูปลักษณ์สวยงามโปร่งตา ช่วยเพิ่มความหรูหราให้ห้องน้ำได้ แต่จำเป็นต้องใช้เป็นกระจกนิรภัยเพื่อความปลอดภัย หากเป็นกระจกนิรภัยบานเปลือยควรมีความหนา 10 มิลลิเมตร >ฉากกั้นประเภทนี้จะแบ่งออกเป็น 3 รูปแบบคือ >- ฉากกั้นติดตาย เป็นรูปแบบที่ได้รับความนิยม เพราะมีความทันสมัยและไม่ซับซ้อน มีทั้งบานถาวรสำเร็จรูปและออกแบบขึ้นใหม่ตามความต้องการของเจ้าของบ้าน แต่ไม่เหมาะกับห้องอาบน้ำที่มีขนาดเล็ก เพราะความกว้างของฉากกั้นจะสั้นลง ทำให้ป้องกันน้ำกระเซ็นไม่ดีนัก ฉากกั้นกระจกติดตายบานเปลือย >ภาพ: ฉากกั้นกระจกติดตายบานเปลือย ฉากกั้นกระจกติดตายบานกรอบ >ภาพ: ฉากกั้นกระจกติดตายบานกรอบ >- ฉากกั้นบานเลื่อน สามารถกันน้ำกระเซ็นได้มากกว่าแบบฉากกั้นติดตาย เพราะมีประตูปิดมิดชิด หากเป็นบานอะคริลิกจะมีกรอบโดยรอบ ขณะที่ฉากกระจกจะมีทั้งแบบบานเปลือยและแบบบานกรอบ ความหนาของกระจกบานกรอบในท้องตลาดมีตั้งแต่ 6-10 มิลลิเมตร ในขณะที่แบบบานเปลือยจะอยู่ที่ 10 มิลลิเมตร ส่วนตัวรางแนะนำเป็นรางสเตนเลสแขวนด้านบน เพราะจะสะสมคราบสกปรกน้อยกว่ารุ่นมีรางด้านล่าง แต่เพราะระบบลูกล้อรางเลื่อนมักมีปัญหาในระยะยาว ทำให้อายุการใช้งานสั้นกว่าแบบบานผลัก >จุดเด่นหนึ่งของฉากกั้นบานเลื่อนคือตู้อาบน้ำแบบเข้ามุมที่สามารถใช้กับพื้นที่ห้องน้ำขนาดเล็กได้ ฉากกั้นอะคริลิกบานเลื่อน >ภาพ: ฉากกั้นอะคริลิกบานเลื่อน ฉากกั้นกระจกบานเลื่อนแบบรางแขวนด้านบน >ภาพ: ฉากกั้นกระจกบานเลื่อนแบบรางแขวนด้านบน ตู้อาบน้ำเข้ามุมแบบบานเลื่อนโค้ง >ภาพ: ตู้อาบน้ำเข้ามุมแบบบานเลื่อนโค้ง ตู้อาบน้ำเข้ามุมลายตาราง >ภาพ: ตู้อาบน้ำเข้ามุมลายตาราง >- ฉากกั้นบานผลัก เป็นฉากกั้นห้องน้ำที่นิยมมากที่สุด ด้วยรูปแบบสวยงามทันสมัย โปร่งสบายตา การใช้งานที่ยาวนานคงทน สามารถหาซื้อง่ายในท้องตลาด ซึ่งมาพร้อมบริการติดตั้งและชุดอุปกรณ์สเตนเลส มีทั้งแบบกรอบบานและบานเปลือย ฉากกั้นกระจกบานผลักแบบมีกรอบ >ภาพ: ฉากกั้นกระจกบานผลักแบบมีกรอบ ฉากกั้นกระจกบานผลักแบบเปลือย >ภาพ: ฉากกั้นกระจกบานผลักแบบเปลือย >## 3. บล็อกแก้วหรืออิฐแก้ว >เป็นผลิตภัณฑ์ตกแต่งผนังทรงสี่เหลี่ยมโปร่งแสง สามารถนำมาประยุกต์ได้หลากหลาย แข็งแรงทนทาน ช่วยให้ห้องน้ำไม่มืดทึบ ขนาดมาตรฐานทั่วไปคือ 190x190x80 มิลลิเมตร การติดตั้งต้องใช้ปูนยาแนวเหมือนการก่ออิฐ ควรเลือกยาแนวแบบกันเชื้อราหรือที่ผลิตมาเพื่อใช้กับบล็อกแก้วโดยเฉพาะ ฉากกั้นอาบน้ำบล็อกแก้ว >ภาพ: (ซ้าย) ตัวอย่างบล็อกแก้ว (ขวา) ฉากกั้นอาบน้ำบล็อกแก้ว >## 4. ฉากกั้นผนังทึบ >คือการก่ออิฐฉาบปูนกรุกระเบื้องหรือหินเช่นเดียวกับผนังห้องน้ำ อาจสูงชนฝ้าเพดานหรือเตี้ยลงมาก็ได้ ข้อจำกัดคือต้องก่อสร้างตั้งแต่เริ่มแรกพร้อมพื้นผนังห้องน้ำ ไม่เหมาะมาทำภายหลังเพราะขั้นตอนยุ่งยาก และหากห้องน้ำมีขนาดเล็กจะทำให้ดูมืดทึบแออัด อาจประยุกต์ใช้เป็นผนังทึบบางส่วนผสมกับกระจกหรือบล็อกแก้ว ฉากกั้นอาบน้ำก่อผนังทึบแบบเตี้ย >ภาพ: ฉากกั้นอาบน้ำก่อผนังทึบแบบเตี้ย ฉากกั้นอาบน้ำก่อผนังทึบแบบสูง >ภาพ: ฉากกั้นอาบน้ำก่อผนังทึบแบบสูง ฉากกั้นแบบฐานผนังทึบผสมกระจก >ภาพ: ฉากกั้นแบบฐานผนังทึบผสมกระจก >ฉากกั้นห้องอาบน้ำทั้ง 4 รูปแบบนี้สามารถพบเห็นได้บ่อย ทั้งแบบวางขายสำเร็จรูปและแบบดีไซน์ขึ้นใหม่เพื่อให้เหมาะสมกับพื้นที่ ขึ้นอยู่กับความสะดวกและงบประมาณของเจ้าของบ้านว่าต้องการเลือกใช้แบบไหน หากยึดความยืดหยุ่น การใช้ม่านกั้นห้องอาบน้ำก็ถือเป็นทางเลือกที่ดี หากต้องการความสวยงามคงทน ฉากกั้นกระจกก็เป็นทางเลือกที่ตอบโจทย์กว่า แต่ถ้ามีพื้นที่ขนาดเล็กมาก ก็จำเป็นต้องใช้ตู้อาบน้ำบานเลื่อนอะคริลิก หรือหากยึดเอาความปลอดภัยและต้องการก่อสร้างรวดเดียวจบ ก็อาจใช้ผนังทึบหรือบล็อกแก้วได้ สนใจ บริการออกแบบก่อสร้าง คลิก\
แนะนำประเภทโครงสร้างบันไดในบ้านรูปแบบต่าง ๆ พร้อมหลากหลายไอเดียบันไดที่ออกแบบตามสไตล์บ้าน >บันได เป็นหนึ่งในองค์ประกอบทางสถาปัตยกรรมที่สำคัญ เพราะนอกจากบันไดจะใช้เป็นทางสัญจรทางตั้งที่เชื่อมต่อระหว่างชั้นต่างๆ ของบ้านเข้าด้วยกันแล้ว บันไดยังเป็นส่วนหนึ่งของบ้านที่สามารถแสดงออกด้านความงาม และความประทับใจให้แก่ผู้อยู่อาศัย และผู้ที่มาเยี่ยมเยือน การออกแบบ หรือสร้างบันไดสักตัว โครงสร้างของบันไดเป็นสิ่งแรกที่ควรคำนึงถึง จากนั้นจึงค่อยเลือกรูปทรงของบันไดให้เข้ากับพื้นที่ที่มีอยู่ เช่น บันไดทางตรง บันไดหักฉาก บันไดหักกลับ หรือบันไดเวียน เป็นต้น จากนั้นจึงเลือกวัสดุปิดผิวต่างๆ ให้บันไดมีความสวยงาม >โครงสร้างของบันได โดยทั่วไปนั้นแบ่งออกเป็น 3 ประเภทหลักๆ คือ บันไดโครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็ก บันไดโครงสร้างไม้ และบันไดโครงสร้างเหล็ก โดยที่บันไดโครงสร้างไม้ และบันไดโครงสร้างเหล็กจะมีลักษณะการก่อสร้างที่ใกล้เคียงกันจึงขออธิบายรวมอยู่ในหัวข้อเดียวกัน >## 1. บันไดโครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็ก >บันไดโครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็ก มักเป็นบันไดทึบ คือไม่สามารถมองลอดลูกตั้งไปได้ การก่อสร้างจะต้องมีการทำไม้แบบ และผูกเหล็กเสริม ก่อนที่จะเทคอนกรีต การก่อสร้างจึงใช้เวลามาก บันไดโครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็กแบ่งเป็น 3 รูปแบบหลักๆ คือ >1.1 บันไดท้องเรียบ - เป็นบันไดโครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็กที่มีท้องบันไดเรียบ เป็นบันไดแบบพื้นฐานที่สร้างง่ายที่สุด ช่างทั่วไปมีความชำนาญในการสร้าง บันได,ห้องเก็บของใต้บันได,ชั้นวางของขั้นบันได,บันไดบ้าน,ลูกตั้ง,ลูกนอน,แม่บันได >ภาพ: ลักษณะบันไดท้องเรียบ บันได,ห้องเก็บของใต้บันได,ชั้นวางของขั้นบันได,บันไดบ้าน,ลูกตั้ง,ลูกนอน,แม่บันได >ภาพ: บันไดท้องเรียบหล่อคอนกรีตโค้ง ตกแต่งลูกตั้งลูกนอนด้วยหินธรรมชาติ บันได,ห้องเก็บของใต้บันได,ชั้นวางของขั้นบันได,บันไดบ้าน,ลูกตั้ง,ลูกนอน,แม่บันได >ภาพ: บันไดท้องเรียบตกแต่งลูกนอนด้วยไม้จริง บันได,ห้องเก็บของใต้บันได,ชั้นวางของขั้นบันได,บันไดบ้าน,ลูกตั้ง,ลูกนอน,แม่บันได >ภาพ: บันไดท้องเรียบตกแต่งลูกตั้งและลูกนอนด้วยหินธรรมชาติ >1.2 บันไดพับผ้า - เป็นบันไดโครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็กที่มีท้องบันไดเป็นหยักไปตามขั้นบันได เป็นบันไดที่มีมิติมากกว่าบันไดท้องเรียบ การก่อสร้างทำได้ยากกว่า เนื่องจากจะช่างจะต้องตีไม้แบบเป็นหยักที่ท้องบันได ทั้งนี้ยังมีบันไดพับผ้าที่มีแม่บันไดทำหน้าที่เป็นคานช่วยรับน้ำหนัก ซึ่งอาจจะอยู่กลาง หรือริมบันไดก็ได้ บันไดพับผ้าแบบมีแม่บันไดนี้สามารถลดความหนาของลูกตั้งและลูกนอนได้ เนื่องจากมีแม่บันไดรับน้ำหนักแล้ว บันได,ห้องเก็บของใต้บันได,ชั้นวางของขั้นบันได,บันไดบ้าน,ลูกตั้ง,ลูกนอน,แม่บันได >ภาพ: ลักษณะบันไดพับผ้า บันได,ห้องเก็บของใต้บันได,ชั้นวางของขั้นบันได,บันไดบ้าน,ลูกตั้ง,ลูกนอน,แม่บันได >ภาพ: ลักษณะบันไดพับผ้าแบบมีแม่บันไดช่วยรับน้ำหนัก ลูกตั้งลูกนอนจะบางลงได้ บันได,ห้องเก็บของใต้บันได,ชั้นวางของขั้นบันได,บันไดบ้าน,ลูกตั้ง,ลูกนอน,แม่บันได >ภาพ: บันไดพับผ้าแต่งผิวปูนฉาบขัดมัน ลูกนอนไม้จริง บันได,ห้องเก็บของใต้บันได,ชั้นวางของขั้นบันได,บันไดบ้าน,ลูกตั้ง,ลูกนอน,แม่บันได >ภาพ: บันไดพับผ้าทาสีขาว ตกแต่งลูกนอนด้วยไม้ บันได,ห้องเก็บของใต้บันได,ชั้นวางของขั้นบันได,บันไดบ้าน,ลูกตั้ง,ลูกนอน,แม่บันได >ภาพ: บันไดพับผ้าภายนอกบ้านโชว์ผิวคอนกรีตเปลือย >1.3 บันไดลอย - เป็นบันไดโครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็ก ที่ยื่นเฉพาะลูกนอนบันไดออกมาจากผนัง เหมือนขั้นบันไดแต่ละขั้นลอยได้ ซึ่งจริงๆ แล้วจะมีแม่บันไดคอนกรีตเสริมเหล็กซ่อนอยู่ในผนัง บันได,ห้องเก็บของใต้บันได,ชั้นวางของขั้นบันได,บันไดบ้าน,ลูกตั้ง,ลูกนอน,แม่บันได >ภาพ: ลักษณะบันไดลอย มีบันไดซ่อนอยู่ในผนัง บันได,ห้องเก็บของใต้บันได,ชั้นวางของขั้นบันได,บันไดบ้าน,ลูกตั้ง,ลูกนอน,แม่บันได >ภาพ: บันไดลอยคอนกรีตเสริมเหล็กทำผิวปูนฉาบขัดมัน แต่งลูกนอนด้วยไม้จริง >## 2. บันไดโครงสร้างไม้ และบันไดโครงสร้างเหล็ก >บันไดโครงสร้างไม้ และบันไดโครงสร้างเหล็ก เป็นโครงสร้างบันไดที่เกิดจากการประกอบกันของชิ้นส่วนรับแรงต่างๆ ที่ทำจากไม้หรือเหล็ก โดยโครงสร้างของบันไดประกอบไปด้วย >1. แม่บันได: เป็นโครงสร้างหลัก ทำหน้าที่เหมือนคานรับน้ำหนัก >2. ลูกนอนบันได: เป็นส่วนของพื้นที่ไว้เหยียบ >3. ลูกตั้งบันได: เป็นส่วนที่ปิดระหว่างลูกนอนบันไดแต่ละขั้น >4. พุกบันได: ทำหน้าที่ยึดลูกนอนบันไดเข้ากับแม่บันได บันได,ห้องเก็บของใต้บันได,ชั้นวางของขั้นบันได,บันไดบ้าน,ลูกตั้ง,ลูกนอน,แม่บันได >ภาพ: ส่วนประกอบบันไดโครงสร้างไม้และโครงสร้างเหล็ก >บันไดโครงสร้างไม้ และบันไดโครงสร้างเหล็ก จะต้องประกอบไปด้วยส่วนประกอบอย่างน้อย 2 ส่วน คือ แม่บันได และลูกนอนบันได สำหรับในส่วนของลูกตั้งบันได จะมีหรือไม่มีก็ได้ ซึ่งหากไม่มีลูกตั้งก็จะเป็นบันไดแบบโปร่ง >บันไดโครงสร้างไม้ และบันไดโครงสร้างเหล็กสามารถแบ่งออกเป็น 2 รูปแบบหลักๆ ตามลักษณะแม่บันได >2.1 แม่บันไดขนาบข้างขั้นบันได - เป็นบันไดที่มีแม่บันไดอยู่ขนาบข้างขั้นบันไดทั้งสองฝั่ง โดยที่ลูกนอนบันไดยึดติดโดยตรงกับแม่บันได หากเป็นบันไดไม้จะใช้สลักหรือตะปูยึด ส่วนบันไดเหล็กจะใช้การเชื่อมหรือยึดด้วยสกรู บันได,ห้องเก็บของใต้บันได,ชั้นวางของขั้นบันได,บันไดบ้าน,ลูกตั้ง,ลูกนอน,แม่บันได >ภาพ: ลักษณะแม่บันไดขนาบข้างบันได บันได,ห้องเก็บของใต้บันได,ชั้นวางของขั้นบันได,บันไดบ้าน,ลูกตั้ง,ลูกนอน,แม่บันได >ภาพ: บันไดแบบโปร่งโครงสร้างเหล็กแบบแม่บันไดขนาบข้าง บันได,ห้องเก็บของใต้บันได,ชั้นวางของขั้นบันได,บันไดบ้าน,ลูกตั้ง,ลูกนอน,แม่บันได >ภาพ: บันไดแบบโปร่งโครงสร้างเหล็กที่มีแม่บันไดขนาบข้างรูปแบบต่อเนื่องตามลูกตั้งลูกนอน บันได,ห้องเก็บของใต้บันได,ชั้นวางของขั้นบันได,บันไดบ้าน,ลูกตั้ง,ลูกนอน,แม่บันได >ภาพ: บันไดแบบโปร่งโครงสร้างเหล็กแบบแม่บันไดขนาบข้างบิดโค้งตามรูปทรงบันได >2.2 แม่บันไดอยู่ใต้ขั้นบันได - เป็นบันไดที่มีแม่บันไดอยู่ใต้ขั้นบันได โดยที่บันไดจะมีพุกบันไดทำหน้าที่ยึดลูกนอนที่วางขนานกับพื้น ให้เข้ากับแม่บันไดที่วางเอียง แม่บันไดที่วางใต้ขั้นบันไดนี้มีได้ตั้งแต่ 1 ตัวขึ้นไป อาจวางตรงกึ่งกลางบันได หรือวางสองข้างของบันไดก็ได้ บันได,ห้องเก็บของใต้บันได,ชั้นวางของขั้นบันได,บันไดบ้าน,ลูกตั้ง,ลูกนอน,แม่บันได >ภาพ: แม่บันไดอยู่ใต้ขั้นบันได (แม่บันไดกลาง) บันได,ห้องเก็บของใต้บันได,ชั้นวางของขั้นบันได,บันไดบ้าน,ลูกตั้ง,ลูกนอน,แม่บันได >ภาพ: บันไดแบบโปร่งโครงสร้างเหล็ก ที่มีแม่บันไดอยู่ใต้ขั้นบันไดตรงกลาง (แม่บันไดกลาง) บันได,ห้องเก็บของใต้บันได,ชั้นวางของขั้นบันได,บันไดบ้าน,ลูกตั้ง,ลูกนอน,แม่บันได >ภาพ: บันไดแบบโปร่งโครงสร้างเหล็ก ที่มีแม่บันไดอยู่ใต้ขั้นบันไดตรงกลาง (แม่บันไดกลาง) โค้งรับกับพื้นที่โถงทางเดิน บันได,ห้องเก็บของใต้บันได,ชั้นวางของขั้นบันได,บันไดบ้าน,ลูกตั้ง,ลูกนอน,แม่บันได >ภาพ: บันไดแบบโปร่งโครงสร้างเหล็ก ที่มีแม่บันไดเป็นเหล็ก H Beam บันได,ห้องเก็บของใต้บันได,ชั้นวางของขั้นบันได,บันไดบ้าน,ลูกตั้ง,ลูกนอน,แม่บันได >ภาพ: แม่บันไดอยู่ใต้ขั้นบันไดมากกว่า 1 ตัว (แม่บันไดริม) บันได,ห้องเก็บของใต้บันได,ชั้นวางของขั้นบันได,บันไดบ้าน,ลูกตั้ง,ลูกนอน,แม่บันได >ภาพ: บันไดแบบโปร่งโครงสร้างเหล็ก ที่มีแม่บันไดอยู่ใต้ขั้นบันได 2 ตัว (แม่บันไดริม) บันได,ห้องเก็บของใต้บันได,ชั้นวางของขั้นบันได,บันไดบ้าน,ลูกตั้ง,ลูกนอน,แม่บันได >ภาพ: บันไดแบบโปร่งโครงสร้างเหล็ก ที่มีแม่บันไดอยู่ใต้ขั้นบันได 2 ตัว (แม่บันไดริม) >จะเห็นได้ว่าโครงสร้างของบันไดมีหลากหลายรูปแบบ สามารถเลือกใช้ได้ตามความชอบ และงบประมาณที่มีอยู่ โดยโครงสร้างของบันไดในแต่ละรูปแบบนั้นก็มีการออกแบบรายละเอียดที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งควรที่จะปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ ทั้งสถาปนิก และวิศวกร เพื่อที่จะได้บันไดที่มีทั้งความแข็งแรง และความสวยงามเข้ากับดีไซน์ของบ้านเราได้อย่างลงตัว สนใจ สินค้าพร้อมบริการออกแบบ ให้คำปรึกษา คลิก\
การต่อเติมเพิ่มพื้นที่ลานซักล้าง เป็นการเพิ่มและจัดสรรพื้นที่ใช้สอยให้ดูเป็นสัดเป็นส่วน ไม่ปะปนกับพื้นที่บ้านเดิม สิ่งที่ต้องคำนึงคือเรื่องพื้น ที่หากบริเวณที่ต้องการจะต่อเติมมีการเดินระบบท่อและอุปกรณ์ต่างๆ จะต้องเตรียมโครงสร้างพื้นที่ไม่กระทบกับงานระบบ ทั้งนี้ หากต้องการต่อเติมโดยมีหลังคาคลุมด้วยนั้น จะต้องเลือกโครงสร้างหลังคาและวัสดุมุงที่เหมาะสม >งานต่อเติมบริเวณหลังบ้านส่วนใหญ่จะเน้นเรื่องการใช้งานที่เป็นส่วนบริการ หนึ่งในนั้นคือ “การต่อเติมลานซักล้าง” ซึ่งโดยทั่วไปมักประกอบด้วยพื้นคอนกรีต รวมถึงหลังคาสำหรับกันฝน >## เรื่องพื้น >ควรพิจารณาเป็นอันดับแรก หากตำแหน่งดังกล่าวเป็นพื้นดินให้พิจารณาการเทพื้นคอนกรีต ซึ่งส่วนใหญ่มักเป็น Slab on Ground หรือหากต้องการชะลอการทรุดตัวอาจลงเสาเข็มสั้นแบบปูพรม หรือหากต้องการให้ส่วนต่อเติมนี้ทรุดตัวใกล้เคียงกับบ้านหลักจะเลือกใช้เสาเข็มไมโครไพล์ที่สามารถตอกได้ลึกใกล้เคียงกับตัวบ้านเดิมก็ได้เช่นกัน อย่างไรก็ตาม บริเวณหลังบ้านที่ใช้ต่อเติมลานซักล้างนั้นมักเป็นแหล่งรวมงานระบบของบ้าน ทั้งถังบำบัดน้ำเสีย ถังเก็บน้ำ ปั๊มน้ำ พร้อมแนวท่อน้ำดีน้ำเสีย สิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องสำคัญที่ต้องคำนึงก่อนจะเทพื้น เช่น จะเลี่ยงตำแหน่งฝาเปิดของถังบำบัดน้ำเสียหรือถังเก็บน้ำใต้ดินได้อย่างไร หรือหากต้องการลงเสาเข็มแบบปูพรม ก็ต้องพิจารณาว่า ใต้พื้นดินมีแนวท่อหรืออุปกรณ์อื่นๆ ขวางอยู่หรือไม่ >อ่านเพิ่มเติม: 5 ข้อชวนใช้เสาเข็มไมโครไพล์ หมดปัญหาต่อเติมบ้านทรุด บริการต่อเติมและตกแต่งห้องซักล้าง คลิก\ >## ส่วนงานหลังคา >เมื่อมีพื้นคอนกรีตแล้ว จะแบ่งได้เป็น 2 กรณีคือ กรณีแรกที่ต้องการติดตั้งหลังคาส่วนต่อเติมต่อเนื่องออกมาจากตัวบ้าน หากหลังคามีระยะยื่นออกมาไม่เกิน 2 เมตร สามารถฝากโครงสร้างหลังคาไว้กับโครงสร้างบ้านเดิมได้เลย แต่หากมีระยะยื่นออกมาเกิน 2 เมตรให้ทำโครงสร้างเสาอีก 2 ต้นด้านนอกสำหรับรองรับโครงหลังคาใหม่ โดยต้องทำจุดเชื่อมต่อให้สามารถขยับได้ ส่วนกรณีที่สองต้องการแยกโครงสร้างหลังคาออกมาโดยไม่ฝากกับโครงสร้างบ้านเดิม กรณีนี้ให้ทำโครงสร้างเสาอีกชุด (เสาอย่างน้อย 4 ต้น) สำหรับรองรับโครงหลังคา เพื่อที่เวลาพื้นส่วนต่อเติมทรุดตัวจะได้ไม่ดึงรั้งโครงสร้างบ้านเดิมจนเสียหาย ทำหลังคากันสาดติดกับผนังบ้านเดิม ระยะยื่นไม่เกิน 2 เมตร ต่อเติมลานซักล้าง ต่อเติม ห้องซักรีด >ภาพ: ลักษณะการทำหลังคากันสาดติดกับผนังบ้านเดิม โดยกันสาดมีระยะยื่นไม่เกิน 2 เมตร ฝากโครงหลังคาใหม่ไว้กับโครงสร้างบ้านเดิม ทำจุดเชื่อมต่อให้ขยับได้ รองรับการทรุดตัว ต่อเติมลานซักล้าง ต่อเติม ห้องซักรีด >ภาพ: กรณีฝากโครงหลังคาใหม่ไว้กับโครงสร้างบ้านเดิม ควรทำจุดเชื่อมต่อให้ขยับได้เผื่อรองรับการทรุดตัว ทำโครงสร้างใหม่สำหรับรองรับหลังคาโดยเฉพาะ ต่อเติมลานซักล้าง ต่อเติม ห้องซักรีด >ภาพ: กรณีเทพื้นใหม่ ควรทำโครงสร้างใหม่สำหรับรองรับหลังคาโดยเฉพาะ (ดังภาพบน) เพื่อป้องกันมิให้โครงสร้างส่วนต่อเติมซึ่งทรุดตัวเร็วกว่า ดึงรั้งโครงสร้างบ้านเดิมจนเสียหาย (ดังภาพล่าง) บริการต่อเติมและตกแต่งห้องซักล้าง คลิก\ >## กรณีตำแหน่งที่ต้องการต่อเติมลานซักล้างเป็นพื้นคอนกรีตอยู่แล้ว >ให้ลองพิจารณาเรื่องโครงสร้างที่รองรับพื้น หากเป็นพื้น Slab on Ground โดยปราศจากเสาเข็ม หรือมีเพียงฐานเข็มปูพรมรองรับ ให้ทำโครงสร้างเสาแยกอีกชุดสำหรับรองรับโครงหลังคาส่วนต่อเติมเช่นเดียวกับกรณีเทพื้นใหม่ ในทางกลับกัน หากพื้นนั้นถ่ายน้ำหนักไปที่โครงสร้างชุดเดียวกับโครงสร้างบ้าน ก็อาจฝากโครงหลังคาส่วนต่อเติมใหม่เข้ากับโครงสร้างบ้านเดิมได้ >สำหรับวัสดุมุงหลังคาที่ใช้ หากมีน้ำหนักเบาจะมีข้อดีคือช่วยลดภาระให้กับโครงสร้างส่วนต่อเติม กรณีวัสดุมุงหลังคาเป็นแบบทึบแสงจะช่วยกันได้ทั้งแดดและฝน เช่น หลังคาเหล็กรีดลอน (Metal Sheet) หลังคาไวนิล (PVC หรือ Poly Vinyl Chloride) หลังคา UPVC (Unplastizide Poly Vinyl Chloride) ในทางกลับกัน หากเจ้าของบ้านอยากได้แสงธรรมชาติ เช่น ต้องการใช้เป็นพื้นที่ตากผ้าโดยที่ยังสามารถกันฝนได้อยู่ ให้เลือกใช้วัสดุมุงหลังคาแบบโปร่งแสง อย่างพลาสติกลูกฟูก (Polycarbonate) ไฟเบอร์กลาส (Fiberglass) อะคริลิก (Acrylic) >อ่านเพิ่มเติม: ไอเดียตกแต่งหลังคาโรงรถ กันสาด ด้วยหลังคาโปร่งแสงและทึบแสง แผ่นหลังคาโปร่งแสงอะคริลิก Shinkolite ต่อเติมลานซักล้าง ต่อเติม ห้องซักรีด >ภาพ: แผ่นหลังคาโปร่งแสงอะคริลิก Shinkolite พร้อมตัวเลขแสดงปริมาณที่แสงผ่านได้ แผ่นโปร่งแสง เอสซีจี ลอนกันสาด รุ่นยูวีชิลด์ ต่อเติมลานซักล้าง ต่อเติม ห้องซักรีด >ภาพ: แผ่นโปร่งแสง เอสซีจี ลอนกันสาด รุ่นยูวีชิลด์สีต่างๆ สำหรับมุงหลังคา (ผลิตจากไฟเบอร์กลาส) พร้อมตัวเลขแสดงปริมาณที่แสงผ่านได้ แผ่นโปร่งแสง เอสซีจี ลอนกันสาด รุ่นฮีทชิลด์ ต่อเติมลานซักล้าง ต่อเติม ห้องซักรีด >ภาพ: แผ่นโปร่งแสง เอสซีจี ลอนกันสาด รุ่นฮีทชิลด์สีต่างๆ สำหรับมุงหลังคา (ผลิตจากไฟเบอร์กลาส) พร้อมตัวเลขแสดงปริมาณที่แสงผ่านได้ แผ่นโปร่งแสง เอสซีจี นิวไลท์ รุ่นยูวีชิลด์ ต่อเติมลานซักล้าง ต่อเติม ห้องซักรีด >ภาพ: แผ่นโปร่งแสง เอสซีจี นิวไลท์ รุ่นยูวีชิลด์สีต่างๆ สำหรับมุงหลังคา (ผลิตจากไฟเบอร์กลาส) พร้อมตัวเลขแสดงปริมาณที่แสงผ่านได้ แผ่นโปร่งแสง เอสซีจี นิวไลท์ รุ่นฮีทชิลด์สี ต่อเติมลานซักล้าง ต่อเติม ห้องซักรีด >ภาพ: แผ่นโปร่งแสง เอสซีจี นิวไลท์ รุ่นฮีทชิลด์สีต่างๆ สำหรับมุงหลังคา (ผลิตจากไฟเบอร์กลาส) พร้อมตัวเลขแสดงปริมาณที่แสงผ่านได้ หลังคาไวนิล กันแดดได้ 100% ต่อเติมลานซักล้าง ต่อเติม ห้องซักรีด >ภาพ: หลังคาไวนิล สามารถกันแดดได้ 100% หลังคาเมทัลชีท วัสดุหลังคาแบบทึบแสง 100% ต่อเติมลานซักล้าง ต่อเติม ห้องซักรีด >ภาพ: หลังคาเมทัลชีท เป็นวัสดุหลังคาแบบทึบแสง 100% บริการต่อเติมและตกแต่งห้องซักล้าง คลิก\
นำข้อมูลมาฝากเจ้าของบ้านที่กำลังจะสร้างบ้านหรือรีโนเวตบ้าน ได้เข้าใจถึงหลักการและทางเลือกในการทำพื้นรอบบ้าน ให้แข็งแรง รวมถึงวิธีการที่ช่วยชะลอหรือป้องกันการทรุดของพื้นภายนอกบ้าน... ในการสร้างบ้านแต่ละครั้ง เมื่อตัวบ้านเสร็จเรียบร้อยก็จะเป็นขั้นตอนของการทำพื้นรอบบ้าน ซึ่งนับเป็นอีกส่วนสำคัญที่เราต้องคำนึง เพราะนอกจากจะต้องใช้งานกันเป็นประจำแล้ว ยังมีผลต่อภาพลักษณ์ภายนอกบ้านอีกด้วย พื้นรอบบ้านเมื่อใช้งานไปนานๆ มักทรุด แตกร้าว เพราะอะไร เราอาจเห็นว่าพื้นรอบบ้านเมื่อสร้างเสร็จใหม่ๆ ก็ดูสวยงาม ใช้งานได้ตามปกติ แต่พอเวลาผ่านไปก็มักมีการทรุด ยุบ แตกร้าว นอกจากจะเป็นอันตราย เสี่ยงต่อการสะดุดหกล้มแล้ว ยังดูไม่สวยงามอีกด้วย แล้วทำไมพื้นรอบบ้านของเราจึงทรุด? ก็เนื่องจากว่าพื้นรอบบ้านมักเป็นส่วนใช้งานที่ไม่ต้องรับน้ำหนักมาก เช่น ทางเดิน พื้นที่พักผ่อนนั่งเล่น ลานซักล้าง จึงนิยมทำเป็น “พื้นคอนกรีตเสริมเหล็กหล่อในที่” แบบไม่ลงเสาเข็มเพื่อลดค่าใช้จ่าย ดังนั้นในระยะยาวพื้นคอนกรีตที่หล่อนั้นย่อมทรุดหรือยุบตัวลงไปกับดิน (ในขณะที่ตัวบ้านมีเสาเข็มลึกถึงชั้นดินแข็งพยุงรองรับอยู่จึงไม่ทรุดตาม) โดยจะทรุดมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับสภาพดินในแต่ละพื้นที่และวิธีการบดอัดดินก่อนก่อสร้าง นอกจากนี้ การทรุดแต่ละครั้งอาจทำให้เกิดการถ่ายน้ำหนักที่ไม่สม่ำเสมอ นำมาซึ่งการแตกร้าวของพื้นคอนกรีตได้ Singleimage พื้นภายนอกบ้านทรุดแตกร้าว ภาพ: ตัวอย่างพื้นรอบบ้านที่ทรุดตัวแตกร้าว พื้นรอบบ้านแบบไหนแข็งแรง ใช้งานดี พื้นรอบบ้านที่เป็นคอนกรีตเสริมเหล็กจะแข็งแรงได้นั้น นอกจากจะหล่อพื้นด้วยวัสดุ ส่วนผสมและกระบวนการทำงานที่ได้มาตรฐานแล้ว ยังต้องเตรียมพื้นดินอย่างถูกวิธี เพราะการที่พื้นคอนกรีตเสริมเหล็กวางบนดินโดยไม่มีเสาเข็มรองรับ ตัวพื้นย่อมถ่ายน้ำหนักลงบนดินโดยตรง ดังนั้นวิธีที่ช่วยชะลอการทรุดตัวของพื้น คือ การบดอัดดินและทรายให้แน่นก่อนจะทำการหล่อพื้นคอนกรีตเสริมเหล็ก อย่างไรก็ตาม หากเจ้าของบ้านมองว่าพื้นที่บริเวณนั้น มีแนวโน้มจะใช้งานที่มีการรับน้ำหนักมากขึ้น เช่น ต้องการทำเป็นโรงรถ หรืออาจมีการต่อเติมพื้นที่ใช้สอยเพิ่มในอนาคตอันใกล้ อาจพิจารณาลงเสาเข็มสั้นเพื่อช่วยชะลอการทรุดตัวให้ช้าลงยิ่งขึ้น Singleimage หล่อพื้นภายนอกบ้าน พื้นคอนกรีตวางบนดิน พื้นลงเสาเข็มสั้น ภาพ: การทำพื้นคอนกรีตวางบนดิน (บน) และพื้นคอนกรีตพร้อมเสาเข็มสั้น (ล่าง) สนใจ หล่อเทพื้นคอนกรีตเสริมเหล็ก โดยทีมช่างจากแพลตฟอร์มคิวช่าง คลิก\ ไม่ต้องการให้พื้นรอบบ้านทรุด ทำได้หรือไม่ สำหรับเจ้าของบ้านที่ไม่ต้องการให้พื้นภายนอกบ้านทรุดเลย ก็สามารถทำได้โดยเตรียมงบประมาณสำหรับลงเสาเข็มรองรับพื้นรอบบ้านให้ลึกถึงชั้นดินแข็ง (เช่นเดียวกันกับเสาเข็มของตัวบ้าน) โดยแบ่งได้เป็น 2 กรณี คือ 1) วางแผนลงเสาเข็มตั้งแต่ขั้นตอนออกแบบ: สามารถกำหนดผังเสาเข็มให้ครอบคลุมถึงพื้นที่ภายนอกบ้าน เพื่อให้ผู้รับเหมาลงเสาเข็มเตรียมไว้ในขั้นตอนเดียวกันกับการลงเสาเข็มรองรับตัวบ้าน 2) กรณีลงเสาเข็มเพิ่มเติมภายหลัง: อาจเลือกใช้เสาเข็มไมโครไพล์ ซึ่งอาศัยอุปกรณ์ขนาดเล็กตอกเสาเข็มขนาดยาวประมาณ 1.5 ม. เชื่อมต่อกันลงลึกจนถึงชั้นดินแข็ง Singleimage ตอกเสาเข็มไมโครไพล์ ภาพ: การลงเสาเข็มไมโครไพล์ ตกแต่งพื้นภายนอกบ้านด้วยบล็อกปูพื้น ถึงพื้นทรุดก็รื้อปูใหม่ได้ หากเจ้าของบ้านไม่อยากลงทุนเรื่องเสาเข็ม แต่ในขณะเดียวกันก็ไม่อยากให้พื้นรอบบ้านทรุดแตกร้าว ต้องทุบทิ้งหล่อพื้นใหม่เรื่อยๆ ในระยะยาว มีอีกทางเลือกคือ ตกแต่งพื้นรอบบ้านด้วยบล็อกปูพื้น (หรือที่นิยมเรียกกันว่า “อิฐตัวหนอน”) โดยสามารถปูลงพื้นดินได้โดยไม่ต้องหล่อพื้นคอนกรีตเสริมเหล็ก เพียงทำการบดอัดดินให้แน่นและเตรียมพื้นดินอย่างถูกวิธีตามคู่มือติดตั้งก่อนจะนำบล็อกปูลงไป และหากใช้งานไปนานๆ เมื่อพื้นดินทรุดจนบล็อกเกิดการยุบตัว ก็สามารถรื้อออกเพื่อปรับหน้าดินให้ได้ระดับ ก่อนจะนำบล็อกชุดเดิมปูทับลงไปอีกครั้งได้ ข้อดีอีกอย่างคือบล็อกปูพื้น มีสีสันลวดลายหลากหลายให้เลือก ใช้เป็นวัสดุตกแต่งในตัวได้เลย ต่างกับการหล่อพื้นคอนกรีตเสริมเหล็กที่จะต้องคำนึงเรื่องการตกแต่งผิวพื้นอีกครั้ง อ่านเพิ่มเติม: ไขปัญหาบล็อกปูพื้นยุบ แต่งพื้นรอบบ้านสวยทนนาน Singleimage บล็อกปูพื้น บล็อกตัวหนอน แต่งพื้นภายนอกบ้าน ภาพ: ตัวอย่างการตกแต่งพื้นภายนอกบ้านด้วยบล็อกปูพื้น บล็อกปูพื้น กระเบื้องคอนกรีตปูพื้น พร้อมบริการติดตั้ง คลิก\ กล่าวโดยสรุป จะเห็นว่าการทำพื้นรอบบ้านแต่ละครั้งจะต้องบดอัดดินให้แน่นเพื่อชะลอการทรุดของดินและพื้น ทั้งนี้หากเจ้าของบ้านต้องการชะลอการทรุดให้ช้าลงอีก ก็จะต้องลงเสาเข็มสั้นเพิ่ม ทั้งนี้ไม่ว่าจะเลือกทางใด สิ่งสำคัญคือ พื้นรอบบ้านไม่ควรเชื่อมต่อเข้ากับตัวบ้าน มิฉะนั้นเวลาพื้นรอบบ้านเกิดการทรุดตัว จะเกิดการดึงรั้งกันกับตัวบ้านจนพื้นหรือผนังบ้านแตกร้าวเสียหายได้ Singleimage โรยกรวดตกแต่งรอยต่อพื้นภายนอกบ้าน ภาพ: ตัวอย่างการทำพื้นภายนอกบ้านแยกจากตัวบ้าน โดยตกแต่งด้วยกรวดโรยปิดรอยต่อ ส่วนเจ้าของบ้านที่ต้องการตัดปัญหาพื้นรอบบ้านแตกร้าวต้องทุบทิ้งหล่อใหม่ทุกครั้งเมื่อทรุดตัว ก็อาจใช้บล็อกปูพื้นแทนการหล่อพื้นคอนกรีตเสริมเหล็ก หรือจะเลือกลงเสาเข็มให้ลึกถึงชั้นดินแข็งเพื่อรองรับพื้นคอนกรีตไม่ให้ทรุดซึ่งแม้ค่าใช้จ่ายจะสูงแต่ก็จะตัดปัญหาเรื่องพื้นรอบบ้านทรุดได้ในระยะยาว
เหตุผลสำคัญที่คนส่วนใหญ่เลือกใช้ “อิฐมวลเบา Q-CON” มาก่อผนังบ้าน . เวลาคิดจะสร้างบ้านสักหลัง วัสดุที่เลือกใช้ถือเป็นเรื่องสำคัญ เพราะนอกจากจะมีผลต่อความแข็งแรงของบ้านแล้ว ยังส่งผลต่อความสบาย การดูแลรักษา และค่าใช้จ่ายในระยะยาวด้วย หนึ่งในวัสดุที่ได้รับความนิยมมากในบ้านยุคใหม่ก็คือ “อิฐมวลเบา Q-CON” มีดีอย่างไรบ้างและเพราะอะไรจึงนิยมใช้กัน มาดู 6 เหตุผลสำคัญว่าทำไมบ้านยุคใหม่จึงควรเลือกใช้อิฐมวลเบา Q-CON . 1. อิฐมวลเบา Q-CON ทำให้บ้านเย็น อยู่สบาย ประหยัดพลังงาน อิฐมวลเบา Q-CON มีคุณสมบัติเด่นเรื่องกันความร้อน เพราะในเนื้อวัสดุจะมีฟองอากาศขนาดเล็กกระจายอยู่อย่างสม่ำเสมอช่วยลดทอนหรือหน่วงความร้อนจากภายนอกสู่ภายใน โดยมีการเปลี่ยนแปลงตัวกลางตลอดเวลาระหว่างเนื้อวัสดุและช่องอากาศ ทำหน้าที่เหมือนฉนวนกันความร้อน จากการทดสอบพบว่าอิฐมวลเบา Q-CON มีคุณสมบัติความเป็นฉนวนมากกว่าอิฐมอญ 4-10 เท่า ทำให้ภายในอาคารเย็นสบายกว่า แอร์ไม่ต้องทำงานหนัก ช่วยประหยัดค่าไฟฟ้าจากเครื่องปรับอากาศได้สูงสุดถึง 30% เนื้อของอิฐมวลเบา Q-CON ภาพ: เนื้อของอิฐมวลเบา Q-CON มีฟองอากาศแบบปิดกระจายสม่ำเสมออยู่ภายใน ไม่ต่อเนื่องกัน ไม่ได้เป็นรูพรุนเหมือนฟองน้ำ เนื้อวัสดุจึงตัน . 2. อิฐมวลเบา Q-CON ช่วยลดเสียงรบกวน บ้านที่อยู่ในเมืองหรือใกล้ถนนใหญ่ มักเจอปัญหาเสียงดังรบกวน การเลือกใช้อิฐมวลเบา Q-CON จะช่วยดูดซับเสียงได้ดี ทำให้ภายในบ้านเงียบสงบมากขึ้น เพราะรูพรุนในอิฐมวลเบาทำหน้าที่เป็นฉนวนกันเสียงในตัวได้ดี จากผลการทดสอบการกันเสียงเมื่อเทียบกับอิฐมอญที่ความหนาผนัง 10 ซม. (ผนังก่ออิฐรวมฉาบ 2 ด้าน) พบว่า ผนังทั้งสองชนิดมีค่าการกันเสียงที่ใกล้เคียงกันที่ประมาณ 37 เดซิเบล และหากเลือกใช้อิฐมวลเบาความหนา 10 ซม. จะกันเสียงได้ถึง 43 เดซิเบล ผนัง Q-CON เป็นฉนวนกันเสียงได้ดี ภาพ: ผนังก่ออิฐมวลเบา Q-CON มีคุณสมบัติเป็นฉนวนกันเสียงได้ดี . 3. อิฐมวลเบา Q-CON แข็งแรง ทนทาน ได้มาตรฐาน อิฐมวลเบา Q-CON ผลิตด้วยเทคโนโลยีจากเยอรมนีและได้รับการรับรองมาตรฐานอุตสาหกรรม (มอก.) จากสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม และสถาบันที่เชื่อถือได้ มีเนื้ออิฐแน่น แข็งแรง ไม่เปราะแตกง่าย ใช้ได้ทั้งผนังภายในและภายนอก รวมถึงใช้กับอาคารสูงได้อย่างปลอดภัย ด้วยการผลิตที่ได้มาตรฐานเท่ากันทุกก้อน ทำให้การติดตั้งเข้าฉากเข้ามุมง่าย ผนังบ้านสวย ผนังบ้านสวย เข้าฉากเข้ามุม ภาพ: ผนังบ้านสวย เข้าฉากเข้ามุม . 4. ผนังก่ออิฐมวลเบา Q-CON ช่วยลดภาระโครงสร้าง อิฐมวลเบา Q-CON น้ำหนักเบากว่าอิฐมอญถึง 2 เท่า (อิฐมวลเบา 90 กก./ตร.ม. ส่วนอิฐมอญ 180 กก./ตร.ม.) จึงช่วยลดน้ำหนักรวมของอาคารลงได้มาก ส่งผลให้โครงสร้างบ้านไม่ต้องรับน้ำหนักมากเกินไปจึงช่วยลดขนาดโครงสร้างอาคารได้ และทำให้สามารถเพิ่มระยะห่างระหว่างเสาเอ็นได้มากกว่า และการเลือกใช้อิฐมวลเบาที่มีความหนาขึ้นจะสามารถก่อผนังได้พื้นที่มากขึ้น โดยไม่ต้องมีการหล่อเสาเอ็น/ทับหลัง ค.ส.ล. เพื่อเสริมความแข็งแรงเพิ่มอีก ดังตาราง ตารางก่อผนัง Q-CON . 5. ผนังก่ออิฐมวลเบา Q-CON ทนไฟมากกว่า และลดปัญหาความชื้น อิฐมวลเบา Q-CON เป็นวัสดุที่ทนไฟได้มากกว่า 4 ชั่วโมง ทนทานต่อเพลิงไหม้ที่อุณหภูมิสูงได้ดี สามารถกันไฟได้นานกว่าผนังอิฐมอญ 2-4 เท่า (ที่ความหนาผนัง 7.5 – 20 ซม.) ช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้กับผู้อยู่อาศัย นอกจากนี้ยังมีอัตราการดูดซึมน้ำต่ำ จึงลดปัญหาผนังชื้น สีลอก หรือเชื้อราที่มักพบในบ้านทั่วไป Q-CON เป็นวัสดุที่ทนไฟ ภาพ: อิฐมวลเบา Q-CON เป็นวัสดุที่ทนไฟได้มากกว่า 4 ชั่วโมง (ที่ความหนาผนัง 7.5 – 20 ซม.) . 6. ผนังก่ออิฐมวลเบา Q-CON ช่วยประหยัดเวลา ค่าแรง ค่าวัสดุ แม้ราคาต่อก้อนของอิฐมวลเบา Q-CON จะสูงกว่าอิฐทั่วไปเล็กน้อย แต่ด้วยขนาดที่ใหญ่ (กว้าง 20 ซม. ยาว 60 ซม. โดยมีหลายความหนาให้เลือก) ประมาณ 9 ก้อน/ตร.ม. จึงก่อผนังได้เร็วกว่าอิฐมอญ 3-5 เท่า (อิฐมวลเบา 20-25 ตร.ม./วัน ส่วนอิฐมอญ 5-8 ตร.ม./วัน) ช่วยประหยัดเวลาการก่อสร้าง และช่วยประหยัดค่าแรงได้มากกว่า อีกทั้งการก่อและฉาบอิฐมวลเบา Q-CON จะบางกว่าการก่อและฉาบอิฐมอญ (อิฐมวลเบา ก่อบาง 2 มม. ฉาบบาง 1 ซม. ส่วนอิฐมอญ ก่อหนา 1.5 ซม. ฉาบหนา 2 ซม.) จึงช่วยประหยัดค่าวัสดุในการก่อและฉาบ อิฐมวลเบาก่อผนังได้เร็วกว่าอิฐมอญ 3-5 เท่า ภาพ: อิฐมวลเบาก่อผนังได้เร็วกว่าอิฐมอญ 3-5 เท่า . สนใจ อิฐมวลเบา Q-CON คลิก\ . ข้อควรระวังที่ไม่ควรมองข้าม ๐ การก่อผนังอิฐมวลเบาต้องใช้ปูนก่อสำหรับอิฐมวลเบา\โดยเฉพาะ ซึ่งมีลักษณะเป็นปูนกาว หากเรานำปูนทรายทั่วไปที่แห้งเร็วมาใช้ก่ออิฐมวลเบาจะทำให้ไม่มีแรงยึดติด ผนังที่ก่อเสร็จออกมาจึงไม่แข็งแรง และให้ใช้เกรียงสำหรับก่ออิฐมวลเบา\โดยเฉพาะ จะช่วยให้ปูนก่อกระจายตัวได้อย่างเต็มที่และสม่ำเสมอ ทำให้มีแรงยึดติดมาก ไม่ควรป้ายปูนก่อโดยใช้เกรียงใบโพธิ์ เพราะผนังจะไม่แข็งแรงและสิ้นเปลืองปูนก่อ . ๐ การฉาบผนังก่ออิฐมวลเบาต้องใช้ปูนฉาบอิฐมวลเบา\เช่นกัน เพราะจะรองรับการยืดหดของอิฐมวลเบาได้อย่างเหมาะสม และควรฉาบปูนที่ความหนา 5-10 มม. ไม่ต้องฉาบหนาเหมือนผนังอิฐมอญ เพราะหากเป็นอิฐมวลเบาที่มีคุณภาพมาตรฐาน ก้อนอิฐจะมีผิวเรียบได้ขนาด สามารถก่อได้ดิ่งได้แนวง่าย ไม่เปลืองปูนฉาบ ผนังอิฐมวลเบา ภาพ: ผนังอิฐมวลเบา (ซ้าย) เหมาะกับปูนก่ออิฐมวลเบา (ขวาบน) และปูนฉาบอิฐมวลเบา (ขวาล่าง) . ๐ การเจาะแขวนของหนักต้องเลือกใช้พุกและดอกสว่านที่เหมาะสมกับการรับน้ำหนักของแขวน รวมถึงเจาะผนังอย่างถูกวิธี (ห้ามคว้าน) โดยพุกพลาสติกสามารถรับน้ำหนักต่อจุดได้ไม่เกิน 20 กิโลกรัม ส่วนพุกโลหะสามารถรับน้ำหนักต่อจุดได้ไม่เกิน 50 กิโลกรัม ใช้พุกและดอกสว่านให้เหมาะสม ภาพ: ใช้พุกและดอกสว่านให้เหมาะสมกับการรับน้ำหนักของที่แขวนบนผนังก่ออิฐมวลเบา . . บ้านยุคใหม่ไม่ได้เน้นแค่ความสวย แต่ต้องตอบโจทย์เรื่อง ความอยู่สบายและความคุ้มค่าในระยะยาว อิฐมวลเบา Q-CON จึงเป็นตัวเลือกที่ลงตัว ทั้งเบา แข็งแรง ปลอดภัย และช่วยให้บ้านเย็นสบายอย่างยั่งยืน เพราะ “การเลือกวัสดุที่ดีตั้งแต่ต้น” คือก้าวแรกของบ้านที่น่าอยู่ . SCGHOME.COM มีบริการให้คำปรึกษาเรื่องบ้านที่หน้างาน ออกแบบบ้าน ก่อสร้าง รีโนเวท ต่อเติม ปรับปรุงสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมและจองสำรวจได้ ที่นี่\ . . อ่านเพิ่มเติม: FAQ รวมถาม-ตอบ อิฐมวลเบา Q-CON\ . อ่านเพิ่มเติม: 7 เรื่องเข้าใจผิดเกี่ยวกับอิฐมวลเบา Q-CON ที่หลายคนยังไม่รู้\