เครื่องอบผ้าแบบไหนดีและเหมาะจะใช้ในบ้านเรานั้น อาจไม่ใช่เรื่องที่ตัดสินใจลำบาก หากเรารู้หลักการเลือก 3 วิธีง่าย ๆ เพื่อให้ได้เครื่องอบผ้าที่ตอบโจทย์โดนใจมากที่สุด…
เครื่องอบผ้าเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่หลายคนอาจจะสงสัยว่ามีความจำเป็นมากแค่ไหน… ตอบได้เลยว่ามีความจำเป็นมากกับคนที่ใช้ชีวิตที่เร่งรีบต้องการใช้เสื้อผ้าแบบเร่งด่วน เพราะช่วยให้ผ้าแห้งเร็ว ไร้กลิ่นอับ ประหยัดเวลาไปได้เยอะ อีกทั้งยังสามารถกำจัดเชื้อแบคทีเรีย เชื้อโรค ช่วยให้ผ้าสะอาดยิ่งขึ้น และไม่ต้องคอยกังวลในวันที่ไม่มีแดดก็สามารถซักและอบผ้าได้ทันทีโดยไม่ต้องใช้พื้นที่ในการตากผ้า นับว่าเป็นอีกหนึ่งเครื่องใช้ไฟฟ้าที่เพิ่มความสะดวกสบายในการใช้ชีวิต แต่เครื่องอบผ้าก็มีหลากหลายประเภท จะเลือกแบบไหนดี ? วันนี้ SCGHOME.COM รวม 3 วิธีเลือกเครื่องอบผ้าง่าย ๆ มาให้แล้ว!
1) เลือกระบบให้เหมาะกับที่อยู่อาศัย
สิ่งแรกที่ควรคำนึงในการเลือกเครื่องอบผ้า คือ เลือกระบบของเครื่องอบผ้าให้เหมาะกับที่อยู่อาศัยเพราะมีผลกับการติดตั้งในแต่ละพื้นที่ โดยแบ่งระบบเครื่องอบผ้าออกเป็น 3 ประเภท ดังนี้
- ระบบเป่าลมร้อน Vented ใช้หลักการเป่าลมร้อนสูงกระจายไปทั่วถังอบผ้า ความชื้นจากผ้าจะระเหยเป็นไอน้ำผ่านท่อระบายอากาศซึ่งต้องมีพื้นที่เจาะผนังติดตั้งท่อระบายอากาศออกไปนอกตัวบ้าน จึงเหมาะกับการติดตั้งสำหรับคนที่อยู่บ้านที่มีพื้นที่ในการติดตั้งนั่นเอง
ข้อดี ทำให้ผ้าแห้งสนิทได้อย่างรวดเร็ว ข้อคำนึง ติดตั้งยาก(ต้องเจาะผนังเพื่อต่อท่อระบายอากาศ) ซึ่งไม่เหมาะกับการติดตั้งสำหรับคอนโด
ภาพ: ระบบเป่าลมร้อน Vented ของเครื่องอบผ้า
- ระบบควบแน่น Condenser
ใช้หลักการเป่าลมร้อนและควบแน่นความชื้นที่อยู่ในผ้าให้ออกมาเป็นหยดน้ำ และน้ำจะถูกเก็บอยู่ในช่องหรือกล่องเก็บจากนั้นต้องถอดไปทิ้งเองหลังใช้งานเสร็จ ซึ่งจะเหมาะกับการติดตั้งที่คอนโดเพราะไม่ต้องเจาะผนังเพียงเสียบปลั๊กก็พร้อมใช้งานได้ทันที
ข้อดี ติดตั้งง่ายโดยไม่ต้องต่อท่อระบายอากาศออกไปนอกตัวบ้าน ข้อคำนึง ผ้าอาจจะไม่แห้งสนิทเท่าแบบระบบเป่าลมร้อน หรือมีความชื้นเล็กน้อย
ภาพ: ระบบควบแน่น Condenser ของเครื่องอบผ้า
- ระบบปั๊มลมร้อน Heat Pump ใช้หลักการปั๊มลมร้อนดึงความชื้นออกจากผ้า ใช้พลังงานน้อยกว่าเครื่องอบทั่วไป โดยใช้อุณหภูมิต่ำในการทำให้ผ้าแห้งแต่จะช่วยดูแลและถนอมเนื้อผ้าได้ดีกว่า ซึ่งแลกมาด้วยการใช้เวลาที่นานกว่าเช่นกัน
ข้อดี ใช้พลังงานน้อยกว่าเครื่องอบทั่วไป ช่วยถนอมใยผ้าได้ดีกว่า ข้อคำนึง ใช้เวลานานในการทำให้ผ้าแห้ง
ภาพ: ระบบปั๊มลมร้อน Heat Pump ของเครื่องอบผ้า
2) เลือกขนาดตามจำนวนคนและพื้นที่ในบ้าน
การเลือกขนาดเครื่องอบผ้าควรคำนึงถึงการใช้งานที่เหมาะกับจำนวนคนในบ้านและขนาดพื้นที่ในบ้าน/คอนโดที่สามารถติดตั้งได้
- ขนาดตัวเครื่อง 7-8 กก. เหมาะกับจำนวน 1-4 คน และใช้พื้นที่ติดตั้งโดยประมาณกว้าง 65 ซม. ยาว 71 ซม. สูง 90 ซม.
- ขนาดตัวเครื่อง 9-10 กก. เหมาะกับจำนวน 5 คนขึ้นไป และใช้พื้นที่ติดตั้งโดยประมาณ กว้าง 71 ซม. ยาว 72 ซม. สูง 95 ซม.
ภาพ: ขนาดของเครื่องอบผ้าที่เหมาะกับสมาชิกในบ้าน
3) เลือกฟังก์ชันเสริมที่ตอบโจทย์
ปัจจุบันเครื่องอบผ้ามีฟังก์ชันเสริมที่หลากหลายแตกต่างกันไปเพื่อเพิ่มคุณสมบัติที่มากกว่า ดังนี้
- เทคโนโลยีลดรอยยับ: อบผ้าหมุนสลับไปมา ไม่ทำให้ผ้าพันกัน ทำให้รอยยับลดลง
- ระบบลดเสียงรบกวน: บางรุ่นออกแบบลดการสั่นสะเทือน เพื่อลดเสียงรบกวน
- ระบบตั้งเวลาทำงานล้วงหน้า: บางรุ่นสามารถตั้งเวลาเริ่มต้นทำงานสูงสุด 20 ชั่วโมง
- ระบบวัดอุณหภูมิและความชื้น: มีเซนเซอร์เพื่อปรับการใช้พลังงานและรอบการทำงานให้เหมาะสมกับปริมาณและผ้าแต่ละชนิด
- ระบบประหยัดพลังงาน: เป่าลมในอุณหภูมิต่ำลง เพิ่มความอ่อนโยนในการอบ ช่วยถนอมใยผ้า และยังช่วยประหยัดพลังงาน
ภาพ: การเลือกฟังก์ชั่นเสริมของเครื่องอบผ้า
ภาพ: ตัวอย่างฟังก์ชั่นเสริมของเครื่องอบผ้า
3 วิธีเลือกเครื่องอบผ้าง่าย ๆ ที่กล่าวมาข้างต้นนั้นเป็นเพียงส่วนหนึ่งในการตัดสินใจเลือกเครื่องอบผ้าให้ตอบโจทย์กับสมาชิกในบ้านและที่อยู่อาศัย แต่ที่สิ่งสำคัญมากกว่านั้นคือควรคำนึงถึงประโยชน์ที่แท้จริงในด้านต่าง ๆ ว่ามีความจำเป็นมากแค่ไหนในการจะเลือกซื้อเครื่องอบผ้าดี ๆ มาไว้ที่บ้านสักเครื่อง