หากจะพูดถึงข้อดีในฤดูฝนที่ไม่ต้องคอยรดน้ำต้นไม้บ่อย ๆ ในสวนก็นับว่าช่วยเบาแรงเจ้าของบ้านไปได้เยอะและต้นไม้ที่ชอบน้ำก็ได้รับน้ำเพียงพอและเจริญเติบโตได้ดีอย่างแน่นอน แต่ฤดูฝนก็ยังเป็นปัญหาสำหรับคนรักสวนอยู่พอสมควร เพราะนอกจากสวนจะต้องเจอกับพายุลมแรงหรือสายฝนที่โหมกระหน่ำแล้ว บรรดาไม้ดอกไม้ประดับยังต้องเจอกับโรคที่มาพร้อมความชุ่มฉ่ำอีกด้วย รวมไปถึงเรื่องความปลอดภัยไม่ว่าจะเป็นพายุลมแรงที่อาจจะพัดกิ่งไม้หักใส่บ้านเรือน คราบตะไคร่ที่เกาะตามทางเดินก็ส่งผลให้ลื่นล้มได้ง่าย และยังมีปัญหาอื่น ๆ อีกมากมาย ดังนั้นวันนี้ SCGHOME.COM ชวนเช็ก 7 ข้อควรระวังก่อนฝนมา ดูแลรักษาสวนอย่างไรให้รอด… เพื่อลดความเสียหายไม่ว่าจะเป็น สวน บ้าน และผู้อยู่อาศัย
ภาพ: การดูแลสวนในบ้าน
หากเกิดพายุและสายฝนที่โหมกระหน่ำอย่างแรง ต้นไม้หรือกิ่งไม้ใหญ่ก็ต้านไว้ไม่อยู่… อย่าปล่อยให้เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นที่บ้านจนก่อความเสียหายทั้งต่อทรัพย์สินและร่างกาย
โดยทั่วไปแล้วหากในสวนมีต้นไม้ใหญ่ที่ถูกล้อมมาปลูก มักจะถูกตัดรากให้สั้นเพื่อลดการดูดซึมอาหาร ซึ่งเมื่อปลูกลงดินแล้วรากก็จะค่อย ๆ งอกและเริ่มดูดซึมสารอาหารเพื่อการเติบโตอีกครั้ง แต่จะใช้เวลานานพอสมควร ในช่วงที่รอรากงอกอย่างสมบูรณ์นั้น ควรมีไม้ค้ำยันเพื่อช่วยพยุงต้นไม้ให้ทรงตัวอยู่ได้โดยไม่ล้มไปทับบ้านเรือนหรือช่วยลดความรุนแรงจากแรงกระแทก จึงจำเป็นอย่างมากที่จะต้องหมั่นตรวจสอบความแข็งแกร่งของไม้ค้ำยันรอบ ๆ ต้นไม้อยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นไม้ค้ำยันที่เป็นไม้แท้หรือจะเป็นท่อเหล็กซึ่งมีความแข็งแรงก็จริง แต่หากยึดติดไม่แน่นหนาพอ ทั้งต้นไม้และไม้ค้ำก็อาจจะล้มพังไปพร้อม ๆ กันได้ ในขณะเดียวกันก็ควรสอดส่องดูกิ่งก้านสาขาที่อาจจะยื่นไปหาอาคารบ้านเรือนด้วย ควรตัดกิ่งที่ยื่นล้ำออกมาตั้งแต่เนิ่น ๆ เพื่อป้องกันไม่ให้หักหล่นใส่บ้าน โดยเฉพาะกิ่งของต้นไม้บางชนิดที่เปราะหักง่าย ถึงแม้จะเป็นต้นไม้ใหญ่ที่ปลูกไว้นานแล้วก็ตาม
ภาพ: ต้นไม้โค่นล้มหลังจากเจอพายุหากไม่มีไม้ค้ำล้อมรอบต้นไม้
คนเลี้ยงปลาคาร์ปจะรู้ดีเวลาที่ฝนตกหนักจนน้ำในบ่อปลาเปลี่ยนสภาพกะทันหัน ทำให้ปลาคาร์ปปรับตัวไม่ทัน และทำให้ปลาน็อกน้ำตายในเวลาต่อมา… แต่สำหรับคนที่เป็นมือใหม่หัดเลี้ยงปลาในสวนอาจจะไม่รู้ว่าน้ำฝนที่ตกลงมาจะทำให้ปลาในบ่อเกิดอาการน็อกน้ำได้ การป้องกันก็ทำได้ง่าย ๆ ในกรณีที่มีบ่อปลาต่อกับตัวบ้าน อาจติดตั้งกันสาดอัตโนมัติเชื่อมจากบ้านเพิ่มเติม เมื่อฝนตกหนักจะช่วยให้น้ำฝนไม่ตกลงบ่อปลาโดยตรงหรือมากเกินไป จากนั้นหลังฝนตกควรตักเศษใบไม้ที่ร่วงหล่นในบ่อออกโดยเร็ว
ภาพ: บ่อปลาในสวนนอกบ้าน ที่ต้องโดนฝนตามฤดูกาล
ภาพ: การติดตั้งกันสาดพับเก็บได้ช่วยกันแดด กันฝน ไม่ให้โดนบ่อปลาโดยตรง
สนใจ บริการโรงรถและกันสาดแบบมาตรฐาน พร้อมติดตั้ง คลิก
โดยปกติแล้ว ตำแหน่งสวนที่ตรงกับแนวชายคามักถูกจัดวางตกแต่งด้วยไม้ดอกไม้ประดับ บ้างก็โรยหินแม่น้ำ หินแกลบ เพราะดูแลง่าย ซึ่งหากไม่ติดตั้งรางน้ำฝนแล้วปล่อยให้ความแรงของสายฝนกระแทกลงสู่พื้นอย่างแรง จะเกิดปัญหาตามมาดังนี้
สนใจ บริการติดตั้งรางน้ำฝน คลิก
ภาพ: การติดตั้งรางน้ำฝน สามารถรองรับน้ำฝนจากหลังคาเพื่อไหลลงสู่พื้นดินอย่างนุ่มนวล ป้องกันฝนไม่ให้ทำลายต้นไม้และสวนที่สวยงามของเรา
ระบบไฟเป็นเรื่องที่ควรให้ความสำคัญมาก ๆ เพราะหากเกิดไฟฟ้ารั่วในขณะที่ใช้งานอาจจะเกิดอันตรายถึงแก่ชีวิตได้ แม้ว่าบ้านยุคใหม่จะติดตั้งระบบความปลอดภัยตัดไฟทันทีเมื่อเกิดไฟฟ้าลัดวงจรหรือเกิดกระแสไฟรั่ว แต่การป้องกันไว้ก่อนแก้จะดีที่สุด เริ่มจากลองตรวจสอบคุณภาพของสายไฟในสวนตามจุดต่าง ๆ ว่ามีการเสื่อมสภาพหรือไม่ หรือหากเป็นระบบร้อยท่อก็สังเกตดูสักนิดว่าท่อร้อยสายไฟมีการชำรุดเสียหาย หรือมีรอยสัตว์รบกวน/แมลงกัดแทะหรือไม่ เพราะหากเกิดกระแสไฟฟ้ารั่วไหลในบริเวณที่มีน้ำขังอยู่ และบังเอิญไปสัมผัสก็อาจจะเกิดอันตรายถึงชีวิตได้ แต่หากไม่มั่นใจในการตรวจสอบระบบไฟฟ้าด้วยตนเอง ควรใช้บริการตรวจสอบระบบงานไฟฟ้าภายในบ้านกับผู้เชี่ยวชาญโดยตรง
สนใจ บริการตรวจสอบระบบงานไฟฟ้าภายในบ้าน คลิก
ซุ้มไม้เลื้อย ซุ้มประตู ที่ช่วยบังแดด ช่วยเพิ่มความร่มรื่นสวยงามเสมือนมีหลังคาสีเขียวขจีปกคลุมบังแสงอาทิตย์…ใครล่ะจะไม่ชอบ แต่เมื่อเข้าสู่หน้าฝนทีไร ซุ้มสวย ๆ ที่เราเคยมีก็อาจจะถูกลมพัดจนพังลงได้ ทำให้ไม้เลื้อยที่ปลูกไว้นานปีต้องบอบช้ำไปด้วย ซุ้มไม้ในสวนส่วนใหญ่จะใช้เหล็กเป็นโครง แล้วตีระแนงด้วยไม้ซึ่งมีทั้งไม้จริงและไม้เทียม แต่บางบ้านก็ใช้ไม้จริงซึ่งปฏิเสธไม่ได้ว่ามันจะต้องผุพังตามกาลเวลา จึงควรหมั่นตรวจสอบความแข็งแรงของซุ้มเพื่อเตรียมรับมือก่อนที่ซุ้มนั้นจะถล่มทับจนเกิดอันตรายต่อผู้อยู่อาศัย
ภาพ: ซุ้มไม้เลื้อย ซุ้มประตูที่นิยมตกแต่งในสวนเพื่อความร่มรื่น ซึ่งควรสังเกตความแข็งแรงอยู่สม่ำเสมอ
เมื่อความชื้นสะสมเป็นเวลานาน ๆ ผสมกับแดดร้อนแรงของเมืองไทย ทำให้เกิดตะไคร่น้ำขึ้นตามส่วนที่เป็นวัสดุดูดซับความชื้น อย่างเช่นโขดหิน แผ่นหิน อิฐ ศิลาแลง รวมถึงแผ่นทางเดินซีเมนต์ซึ่งปัจจุบันนิยมปูเป็นทางเดินในสวน ภัยเงียบของตะไคร่น้ำที่หลาย ๆ คนทราบดีคือก่อให้เกิดอุบัติเหตุได้อย่างง่ายดายหากเดินแบบไม่ระมัดระวัง และถึงแม้จะพยายามระมัดระวังแล้วก็ยังสามารถลื่นล้มได้เช่นกัน อย่างไรก็ตามควรกันไว้ดีกว่าแก้โดยใช้น้ำยากำจัดตะไคร่น้ำขัดคราบตะไคร่ออกให้เกลี้ยง หรือใช้เครื่องฉีดน้ำแรงดันสูงทำความสะอาด สุดท้ายควรเคลือบด้วยน้ำยาป้องกันตะไคร่ไว้อีกรอบ เพื่อป้องกันไม่ให้ตะไคร่น้ำเติบโตขึ้นอีก
ภาพ: ตะไคร่น้ำเกาะบนพื้น ก่อให้เกิดอุบัติเหตุลื่นล้มได้ง่าย
การจัดสวนด้วยการปลูกหญ้า เหมือนจะเป็นรูปแบบสวนแบบง่าย ๆ ที่ดูแลไม่ยาก แต่นั่นเป็นเพียงแค่ภาพที่เราสร้างขึ้น เพราะสนามหญ้าเขียว ๆ ที่มีพืชเพียงชนิดเดียวนั้นกลับเป็นสวนที่ต้องดูแลอย่างพิถีพิถัน การเลือกปลูกหญ้าในสวนจึงต้องเลือกชนิดของหญ้าที่เหมาะสมกับความต้องการ อย่างหญ้ามาเลเซียที่ดูแลง่ายที่สุด แต่ก็มีข้อด้อยในเรื่องความละเอียดสวยงาม ส่วนหญ้าญี่ปุ่นหรือหญ้านวลน้อยที่มีรูปใบเรียวเล็กปูเป็นพื้นสีเขียวเรียบเนียน แต่ก็ต้องดูแลกันเป็นพิเศษ ต้องโดนแดดและรดน้ำอย่างสม่ำเสมอ ทั้งนี้ การให้น้ำมากไปหรือได้แสงแดดไม่เพียงพอก็อาจะทำให้เกิดโรครากเน่าตายได้ ยิ่งเป็นช่วงหน้าฝนด้วยแล้วย่อมเกิดปัญหาได้ง่าย ไม่ว่าจะเป็นน้ำท่วมขังเพราะพื้นดินดูดซับน้ำ/ระบายน้ำไม่ทัน ซึ่งไม่ควรไปเหยียบย่ำหญ้าบริเวณนั้นเพราะจะทำให้ใบช้ำมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ในฤดูฝนหญ้าจะเติบโตเร็วต้องหมั่นตัดหญ้าให้สั้นอยู่เสมอเพื่อไม่ให้รกรุงรังด้วย
อย่างไรก็ดี การดูแลหญ้าในสวนอาจเป็นภาระไม่เหมาะกับคนที่ไม่ค่อยมีเวลาดูแล ลองตกแต่งสวนด้วยบล็อกตัวหนอน บล็อกสนามหญ้า หรือกระเบื้องคอนกรีตปูพื้นสลับกับการปลูกหญ้าแซมเล็ก ๆ ก็เป็นไอเดียจัดสวนที่นิยมมากเช่นกัน ยิ่งในปัจจุบันบล็อกและกระเบื้องปูพื้นมีสีสันและลวดลายให้เลือกหลากหลาย สามารถปรับใช้ได้กับทุกสไตล์การตกแต่งบ้าน
ภาพ: สนามหญ้าในฤดูฝนจะยาวเร็ว ต้องตัดบ่อยขึ้น และไม่ควรไปเหยียบย้ำหญ้าขณะฝนตก
ภาพ: เปลี่ยนพื้นดินหรือพื้นหญ้ารก ๆ เป็นบล็อกปูพื้นตัวหนอนและปลูกหญ้าแซมเล็ก ๆ ช่วยลดความสกปรก พื้นแฉะเลอะเทอะในช่วงหน้าฝนได้
สนใจ บริการบล็อกและกระเบื้องคอนกรีตปูพื้น คลิก
นอกจาก 7 ข้อควรระวังและวิธีดูแลรักษาสวนให้สวยงาม ที่จะช่วยป้องกันสวน บ้าน และผู้อยู่อาศัยให้ปลอดภัยก่อนฝนมาตามที่กล่าวไปแล้วข้างต้น ยังมีอีกสิ่งหนึ่งที่มาพร้อมกับฤดูฝนด้วยก็คือโรคในพืช ไม่ว่าจะเป็นโรครากเน่าโคนเน่าอันเนื่องมาจากความชื้นสูง แมลงและเพลี้ยบางชนิด รวมถึงเชื้อราที่ชอบช่วงเวลาที่เจอแสงแดดน้อย ซึ่งสามารถป้องกันได้ตั้งแต่เนิ่น ๆ ด้วยการฉีดพ่นยาป้องกันเชื้อรา หรืออาจจะใช้น้ำยาสูตรสมุนไพรที่หมักด้วยอินทรียวัตถุก็จะปลอดภัยต่อผู้อยู่อาศัยมากกว่า ยิ่งไปกว่านั้นผู้อยู่อาศัยควรเลือกออกแบบสวนให้เข้ากับไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตด้วย เพื่อป้องกันการแก้ปัญหายิบย่อยที่เกี่ยวกับสวนตามมาในภายหลังโดยปรึกษาและขอคำแนะนำจากผู้ออกแบบหรือเชี่ยวชาญเฉพาะทาง
ภาพ: การออกแบบจัดสวนและภูมิทัศน์จากผู้เชี่ยวชาญให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของเรา ช่วยให้เรามีสวนสวยและได้ใช้ประโยชน์เต็มที่