แนวทางจัดพื้นที่สำหรับ Work From Home (WFH) ให้เอื้อต่อการทำงานที่บ้าน ทั้งเรื่องของตำแหน่งที่นั่ง อุปกรณ์ บรรยากาศ ซึ่งส่งเสริมประสิทธิภาพการทำงานและสอดคล้องกับการอยู่อาศัย
จากสถานการณ์ไวรัส COVID-19 ทำให้เกิดผลกระทบในหลายด้าน รวมถึงการทำงานปกติประจำวันของหลายคนที่ทำงานใน Office ต้องเปลี่ยนมาทำงานที่บ้าน หรือ WFH (Work from Home) โดยหลีกเลี่ยงไม่ได้ จากประชุมพบปะกันต้องปรับเปลี่ยนมาประชุมงานร่วมกันผ่าน VDO Conference บางบริษัทอาจมีกำหนดให้เข้าไปบริษัทเพื่อสรุปงานบางวัน แต่ก็ยังคงต้องทำงานที่บ้านเป็นหลัก
บ้านจึงต้องปรับเปลี่ยนเพื่อให้เหมาะสมกับการทำงานมากขึ้น เพื่อส่งเสริมให้การทำงานที่บ้าน (Work From Home) มีประสิทธิภาพเต็มที่ การจัดพื้นที่ภายในบ้านให้เหมาะกับการทำงานก็เป็นการตอบโจทย์ และช่วยให้บรรยากาศการทำงานภายในบ้านเป็นเรื่องสนุกและผ่อนคลายได้
ภาพ : การจัดมุมทำงานภายในบ้าน เพื่อให้เกิดบรรยากาศในการทำงาน
ภาพ : การจัดมุมทำงานภายในบ้าน เพื่อให้เกิดบรรยากาศในการทำงาน
สนใจ บริการต่อเติมห้องทำงาน โดย HomeSmile คลิก
**การออกแบบพื้นที่ทำงานที่บ้าน ให้เหมาะกับการ Work From Home ต้องคำนึงถึงสิ่งต่างๆ ดังนี้ **
1. เลือกมุมทำงานดีๆ
กำหนดพื้นที่ทำงานประจำตำแหน่ง เลือกมุมใดมุมหนึ่งของบ้านที่ค่อนข้างสงบและมีเสียงรบกวนน้อย แสงสว่างเพียงพอ โดยอาจใช้โคมไฟเข้ามาช่วยเพิ่มเติม หากเป็นแสงธรรมชาติควรให้แสงเข้าทางด้านตรงข้ามกับด้านที่ถนัด เช่น คนถนัดเขียนมือขวาควรให้แสงเข้าด้านซ้ายเพื่อไม่ให้มีเงามาบังเวลาเขียนหนังสือ การกำหนดที่นั่งทำงานประจำยังทำให้มีสมาธิง่ายขึ้นอีกด้วย บางคนต้องใช้พื้นที่ทำงานร่วมกับสมาชิกในบ้านคนอื่น จึงควรแบ่งสัดส่วนพื้นที่ทำงานของแต่ละคนทำให้ไม่รบกวนกันไม่ว่าจะเป็นการตั้งฉากกั้นห้อง ติดม่าน ทำห้องเก็บเสียงหรือติดตั้งผนังกันเสียงในกรณีที่ต้องการความสงบเงียบในการประชุมงานขณะ Work From Home
ภาพ : ตัวอย่างรูปแบบการออกแบบพื้นที่ภายในบ้านให้เป็นสัดส่วนเพื่อการทำงานแบบ Work From Home โดยคำนึงถึงการใช้สอยและการใช้พื้นที่ให้เต็มประสิทธิภาพ ทั้งการแยกห้องทำงานให้เป็นสัดส่วน (รูปด้านบน) และการจัดพื้นที่บางส่วนของบ้านเป็นมุมทำงาน (รูปด้านล่าง)
สนใจ บริการต่อเติมห้องทำงาน โดย HomeSmile คลิก
ภาพ : ตัวอย่างการทำผนังกันเสียง โดยซ่อนฉนวนกันเสียงไว้ในผนังโครงเบา
สนใจ บริการติดตั้งผนังภายใน คลิก
2. ตำแหน่งปลั๊กไฟ
สิ่งที่ต้องเตรียมไว้สำหรับพื้นที่ทำงานที่บ้าน ควรมีตำแหน่งปลั๊กไฟ เพื่อให้สามารถใช้คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์ เครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นๆ ได้ และตำแหน่งที่ทำงานควรอยู่ในจุดที่รับสัญญาณอินเทอร์เน็ตในบ้านได้ดี เนื่องจากในปัจจุบันต้องมีการส่งข้อมูลในการทำงานอยู่แทบจะตลอดการทำงานแบบ Work From Home
3. อุณหภูมิและสภาพอากาศที่ดี
ตำแหน่งโต๊ะนั่งทำงานที่บ้านขณะ Work From Home หากมีการหมุนเวียนของอากาศได้ดีมีหน้าต่างหรือประตูเปิดรับลมธรรมชาติจากภายนอกได้ หรือเปิดพัดลมเพื่อให้มีการถ่ายเทของอากาศ ก็ทำให้สามารถนั่งทำงานได้นานขึ้นและสบายตัว ส่วนในวันที่อากาศร้อน การเปิดเครื่องปรับอากาศเพื่อปรับอุณหภูมิให้สบายขึ้นนั้น ตำแหน่งของเครื่องปรับอากาศไม่ควรอยู่ตรงกับที่นั่งทำงานพอดี เนื่องจากอากาศเย็นจะเป่ามาที่ตัวโดยตรง จุดที่นั่งทำงานควรหลบจากแนวเครื่องปรับอากาศหรือใช้วิธีปรับช่องเป่าลมไปตำแหน่งอื่นแทน จะทำให้เกิดภาวะน่าสบายและไม่รบกวนสมาธิในการทำงาน นอกจากนี้เราอาจหาวิธีปรับปรุงสภาวะอากาศที่ช่วยส่งเสริมการทำงาน เช่น การติดตั้งระบบระบายอากาศเพื่อถ่ายเทความร้อนออกจากตัวบ้าน ก็เป็นการลดอุณหภูมิภายในบ้าน สร้างภาวะน่าสบายได้ในระยะยาว รวมถึงการติดตั้งอุปกรณ์เล็กๆ น้อยๆ เพื่อเพิ่มความสดชื่นให้กับอากาศภายในสถานที่ทำงาน เช่น เครื่องฟอกอากาศ หรืออุปกรณ์กระจายน้ำหอม ก็ช่วยเสริมสร้างบรรยากาศในการทำงานได้เป็นอย่างดี ภาพ : ตำแหน่งแอร์ในส่วนทำงานที่ติดตั้งตามตำแหน่งที่ถูกต้อง คือไม่ควรอยู่ตรงกับที่นั่งทำงาน
ภาพ : (ซ้าย) ระบบระบายอากาศ Active Airflow™ System เร่งอัตราถ่ายเทอากาศและความร้อนในบ้านให้เหมาะสม สร้างสภาวะอยู่สบาย และ (ขวา) ชุดอุปกรณ์กระจายน้ำหอมที่สร้างความสดชื่นขณะ Work From Home รวมถึงช่วยฆ่าเชื้อโรคในอากาศได้ด้วย
ติดตั้ง ระบบระบายอากาศ Active Airflow™ System คลิก
4. แสงสว่างที่เหมาะสม
แสงสว่างที่เพียงพอก็เป็นเรื่องสำคัญสำหรับการทำงานที่บ้าน นอกจากช่วยทำให้มองเห็นได้ชัดเจน แล้วยังช่วยถนอมสายตาที่เหนื่อยล้าจากการทำงานทั้งวัน แสงสว่างตามธรรมชาติเป็นแสงสว่างที่เหมาะสมกับการทำงานมากที่สุด หากในห้องสามารถเปิดหน้าต่างรับแสงธรรมชาติได้ก็เป็นการดี แต่หากแสงสว่างภายในห้องไม่เพียงพอ การเพิ่มดวงโคมและการตั้งโคมไฟอ่านหนังสือเพิ่มเติมในส่วนทำงานนอกจากจะช่วยเพิ่มแสงสว่างแล้ว ยังเป็นตัวเพิ่มบรรยากาศที่กระตือรือร้นขณะ Work From Home โดยแสงไฟภายในห้องที่เหมาะกับการทำงานควรใช้แสงสี Cool White เพื่อทำให้เกิดความสบายตาในขณะทำงาน และเพื่อการมองเห็นที่ชัดเจนไม่ผิดเพี้ยน ภาพ: แสงสว่างที่เหมาะสมสำหรับการทำงาน ทำให้เกิดความสบายตาในการทำงาน
5. เฟอร์นิเจอร์ที่เอื้ออำนวย
เฟอร์นิเจอร์ที่ใช้สำหรับการทำงานที่บ้าน โต๊ะเก้าอี้ ควรมีขนาดเหมาะสมและรองรับกับสรีระร่างกายของแต่ละคน ตามมาตรฐานแล้วความสูงของโต๊ะจะอยู่ที่ประมาณ 75 ซม. ที่นั่งทำงานสูง 45 ซม. หรือเลือกใช้โต๊ะเก้าอี้ทำงานเพื่อสุขภาพที่สามารถปรับความสูงตามขนาดของร่างกายของผู้ใช้ได้ เพื่อลดอาการปวดเมื่อยจากการนั่งทำงานเป็นเวลานาน บริเวณที่ทำงานควรจัดตู้หรือชั้นเก็บเอกสารหรือหนังสือที่เกี่ยวข้องติดตั้งไว้ใกล้ๆ เพื่อสามารถหยิบใช้ได้สะดวกยิ่งขึ้น โดยพิจารณาเลือกตู้ที่มีหน้าบานเพื่อป้องกันฝุ่นละอองต่างๆ แต่ในส่วนที่ต้องหยิบใช้บ่อยอาจเป็นตู้ที่ไม่มีหน้าบานปิด ภาพ : เก้าอี้เพื่อสุขภาพ ช่วยรองรับสรีระของผู้ใช้ และช่วยพยุงส่วนต่างๆ ของร่างกาย ทำให้ผู้ใช้รู้สึกสบายเมื่อนั่งทำงานเป็นเวลานานขณะ Work From Home
นอกจากการจัดพื้นที่ทำงานในบ้านให้เหมาะสมแล้ว การมีพื้นที่เพื่อกิจกรรมอื่นๆ และเตรียมระบบเพื่อรองรับการใช้ชีวิตในบ้านที่มากขึ้น ยังช่วยส่งเสริมคุณภาพชีวิตที่ดี ส่งผลต่อการทำงานที่มีประสิทธิภาพ ประกอบด้วย
• จัดมุมผ่อนคลายเหมาะๆ พื้นที่พักผ่อนก็สำคัญ การทำงานแบบ Work From Home ควรมีเวลาพักเป็นช่วง ๆ เพื่อให้ร่างกายและจิตใจได้ผ่อนคลายลงบ้าง ไม่ว่าจะเป็นมุมกาแฟกับเครื่องชงกาแฟดีดีซักเครื่อง หรือมุมสวนเล็กๆ ริมระเบียง ก็ทำให้เราได้พักผ่อนสายตา เดิน ยืน ยืดเหยียดร่างได้บ้าง เพื่อให้พร้อมกับการทำงานต่อในต่อละช่วงวัน บ้านที่มีพื้นที่เล็กอาจใช้ผนังระเบียงทางตั้งปลูกต้นไม้ติดตั้งในมุมที่มองเห็นจากโต๊ะทำงาน ทำให้เกิดผนังสีเขียวสบายตาเป็นมุมมองพักสายตาได้ในช่วงเวลาทำงาน
ภาพ : ตำแหน่งโต๊ะทำงานสำหรับ Work From Home ที่เปิดมุมมองออกสู่ภายนอก หรือเพิ่มพื้นที่สีเขียวภายในบ้าน เพิ่มมุมพักสายตาระหว่างช่วงเวลาทำงานที่บ้าน
• มีพื้นที่ออกกำลังกาย การทำงานในบ้านนานๆ โดยไม่ได้ออกไปไหนทำให้ร่างกายไม่กระฉับกระเฉง ประสิทธิภาพในการทำงานอาจจะแย่ลง การเคลื่อนไหวร่างกายหรือการออกกำลังกายภายในบ้านเป็นทางออกอย่างหนึ่งที่จะช่วยให้สุขภาพร่างกายของเราแข็งแรงเพื่อป้องกันโรคภัยไข้เจ็บในระดับหนึ่ง อุปกรณ์กีฬา เช่น จักรยานออกกำลังกาย หรือลู่วิ่งกับที่ ที่ติดตั้งใกล้บริเวณสวนหรือระเบียงก็เป็นมุมช่วยผ่อนคลายอีกทางหนึ่งสำหรับช่วง Work From Home ได้ ภาพ : พื้นที่ผ่อนคลายความเครียดจากการทำงานที่บ้าน เพื่อสร้างความสุขในการทำงานแบบ Work From Home ให้มากขึ้น
• หาตัวช่วยประหยัดค่าไฟ การทำงานในปัจจุบันต้องอาศัยอุปกรณ์เทคโนโลยี และอุปกรณ์ที่ใช้ไฟฟ้าต่าง ๆ การติดตั้ง ระบบโซล่าร์เซลล์ถือเป็นตัวเลือกเสริมที่ช่วยประหยัดไฟฟ้าในบ้าน ไม่ต้องกังวลกับค่าไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น
ภาพ : การติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์บนหลังคาบ้าน เพื่อเปลี่ยนแสงแดดเป็นพลังงานไฟฟ้าสำหรับใช้สอยในเวลากลางวัน ช่วยประหยัดพลังงาน ลดค่าไฟขณะทำงานที่บ้าน
ใครที่ต้องทำงานจากที่บ้าน ลองปรับเปลี่ยนจัดพื้นที่ทำงานให้มีบรรยากาศที่น่าทำงาน เพราะที่จริงแล้วการทำงานที่บ้านก็อาจถือได้ว่าเป็นความสุขอย่างหนึ่งของชีวิต ตื่นเช้ามาทำงานโดยไม่ต้องเดินทางทุกวัน ต้มน้ำชงกาแฟยามเช้าก่อนประจำตำแหน่งนั่งทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ เปิดเพลงบรรเลงคลอในระหว่างการทำงาน เดินไปรดน้ำต้นไม้เมื่อต้องการพักสายตาซักนิด แล้วค่อยกลับมาทำงานต่อ จบการทำงานในทุกวันเป็นเวลาตามเป้าหมายที่วางไว้ ไม่ว่าจะทำงานคนเดียวหรือมีสมาชิกครอบครัวอยู่ร่วมกันภายในบ้าน การจัดสมดุลของชีวิตการทำงานแบบ Work From Home ให้สอดคล้องกับวิถีชีวิตของตนเองและครอบครัวก็นำมาซึ่งประสิทธิภาพที่ดีในการทำงานนั่นเอง