- ยุคที่คนนิยมหันมาเลี้ยงหมาเสมือนลูกหรือเทรนด์ที่เรียกว่า “Pet Humanization” คือการที่เจ้าของสัตว์เลี้ยงแทนตัวเองว่าเป็น “พ่อแม่” มากกว่าการมีลูกเสียเอง อย่างไรก็ดี การตัดสินใจเลี้ยงหมาแต่ละครั้ง ก็ใช่ว่าจะเลี้ยงทิ้ง ๆ ขว้าง ๆ หรือเลี้ยงเพราะแก้เหงาไปวัน ๆ ได้ เพราะหมาเป็นสัตว์เลี้ยงที่ขึ้นชื่อว่ารักและซื่อสัตย์ต่อเจ้าของแบบสุดหัวใจ น้องจึงต้องการเวลา ความรัก และคุณภาพชีวิตดี ๆ เช่นกัน
- การตัดสินใจเลือกเลี้ยงหมาจึงมาพร้อมกับความรับผิดชอบที่ค่อนข้างใหญ่พอ ๆ กับการเลี้ยงลูก ดังนั้นการเตรียมตัวอย่างดีเพื่อต้อนรับสมาชิกใหม่ในบ้านให้มีความสุขและสุขภาพดีก็เป็นเรื่องที่ควรให้ความสำคัญไม่น้อย
1. ต้องเข้าใจธรรมชาติของหมาที่เราจะเลี้ยง
หมาแต่ละสายพันธุ์มีลักษณะทางกายภาพ อุปนิสัย พฤติกรรมและธรรมชาติที่แตกต่างกันไปยกตัวอย่างเช่น…
- โกลเด้น รีทรีฟเวอร์ และลาบราดอร์ รีทรีฟเวอร์ เป็นสุนัขที่มีความเป็นมิตรและเข้ากับคนได้ง่าย ชอบเล่นกับเด็กและมีนิสัยค่อนข้างสุภาพ
- ชิสุ และปอมเมอเรเนียน เป็นสุนัขที่มีพลังงานสูง ขี้เล่น แต่ก็มักจะต้องดูแลขนเป็นพิเศษ เนื่องจากขนสามารถพันกันได้ง่ายหากไม่ได้หวีหรือแปรงอย่างสม่ำเสมอ
- บีเกิล และแจ็ครัสเซลล์ เทอร์เรีย เป็นสุนัขที่มีสัญชาตญาณนักล่าสูง ชอบวิ่งไล่ตามสิ่งที่เคลื่อนไหว ดังนั้นคนที่ต้องการจะเลี้ยงสายพันธุ์นี้ ควรเตรียมพื้นที่ที่กว้างและปลอดภัยเพียงพอสำหรับการออกกำลังกายและการเล่นของน้อง ๆ
- ไซบีเรียน ฮัสกี้ เป็นสุนัขที่อิสระและพลังงานสูงมาก หากไม่ได้ออกกำลังกายอาจจะเกิดพฤติกรรมทำลายข้าวของในบ้านได้ และยังเป็นหมาที่ชอบอากาศเย็น หากจะเลี้ยงในสภาพอากาศร้อน ๆ อย่างบ้านเราอย่างน้อยต้องเปิดแอร์ให้น้องด้วย
- ปั๊ก มักจะมีนิสัยขี้เล่นและเป็นมิตร ชอบอยู่ใกล้ชิดกับคน ติดคนมาก บางครั้งชอบตามเจ้าของไปทั่วบ้าน มักชอบการพักผ่อนมากกว่า ไม่ต้องการการออกกำลังกายที่หนักหนา
จากลักษณะนิสัยโดยธรรมชาติของหมาแต่ละสายพันธุ์ที่ได้กล่าวมาข้างต้น มีความแตกต่างกัน ดังนั้น การเลือกเลี้ยงหมาควรพิจารณาจากไลฟ์สไตล์ของเจ้าของและพื้นที่ในการเลี้ยงดูด้วย
ภาพ: หมาแต่ละสายพันธุ์มีลักษณะทางกายภาพ อุปนิสัย พฤติกรรมและธรรมชาติที่แตกต่างกัน
2. เตรียมที่อยู่และพื้นที่ให้พร้อม
สำหรับน้องหมาไม่ว่าจะเลือกเลี้ยงในบ้านให้นอนด้วยกันก็ควรจะต้องมี “เบาะนอนสำหรับสัตว์เลี้ยง” โดยเฉพาะ หรือมีกรงกั้นล้อม เพื่อให้เขามีพื้นที่ส่วนตัว หรือหากเลือกเลี้ยงนอกบ้าน หรือปล่อยให้วิ่งเล่นรอบบ้านขณะที่เราไม่อยู่ ก็ควรจะมี “บ้านหมา” เพื่อให้เขารู้สึกมีพื้นที่ปลอดภัย
ภาพ: เบาะนอนสำหรับสัตว์เลี้ยงเพิ่มพื้นที่ส่วนตัว
ภาพ: ทำบ้านหมาสำหรับเลี้ยงนอกบ้านเพิ่มพื้นที่ปลอดภัย
3. เตรียมอาหารที่เหมาะสมในแต่ละวัย
- ควรให้สารอาหารครบถ้วนเหมาะกับอายุของน้อง รวมไปถึงต้องรู้ว่าหมากินอะไรได้และไม่ได้ เช่น หมาไม่ควรกินอาหารรสจัด
- ควรให้เป็นช่วงเวลาเพื่อเป็นการฝึกวินัยไปในตัว
- เตรียมชามข้าว “ชามน้ำ” โดยเฉพาะ หากเลี้ยงเกินหนึ่งตัวยิ่งควรแยกชามข้าวหมาเป็นอย่างยิ่งเพื่อเพื่อป้องกันโรคติดเชื้อที่สามารถแพร่กระจายผ่านการกินอาหารร่วมกันได้ หรือป้องการการทะเลาะกันระหว่างกินข้าว
ภาพ: เตรียมชามข้าว ชามน้ำให้น้องโดยเฉพาะ
4. เตรียมความพร้อมเรื่องสุขภาพของน้องหมา
พาไปฉีดวัคซีนที่จำเป็นให้ครบเพื่อป้องกันโรคให้น้องหมา นอกจากนี้ยังป้องกันเราและคนอื่นได้ด้วยหากโดนน้องกัดด้วยความตั้งใจหรือไม่ก็ตาม
5. เตรียมอุปกรณ์ทำความสะอาดให้น้องหมา
- ควรให้ความสำคัญเกี่ยวกับการทำความสะอาดน้องหมาเพราะหากดูแลไม่สะอาดอาจจะทำให้น้องเป็นโรคหรือมีเห็บได้
- หากอาบน้ำให้น้องเองควรใช้ “ฝักบัวอาบน้ำสำหรับสัตว์เลี้ยง” ที่สามารถปรับระดับความแรงของน้ำได้ และเป่าขนให้แห้ง อาจเลือกใช้ “ไดร์เป่าขนที่ไม่ต้องใช้มือจับ” เพื่อความสะดวกในการทำความสะอาดยิ่งขึ้น
- แปรงหวีขน เพื่อป้องกันขนพันกันและขนร่วง
- สบู่หรือแชมพูสำหรับหมาโดยเฉพาะและผ้าเช็ดตัว
- ถุงเก็บอุจจาระและทิชชู่เปียกสำหรับการพาสุนัขออกไปเดินเล่นนอกบ้าน *หากขับถ่ายที่สาธารณะเจ้าของควรจะต้องเก็บหรือทำความสะอาดให้เรียบร้อย
- อุปกรณ์ตัดเล็บ
ภาพ: เลือกฝักบัวอาบน้ำสำหรับสัตว์เลี้ยงที่สามารถปรับระดับความแรงของน้ำได้
ภาพ: ไดร์เป่าขนสัตว์เลี้ยงโดยไม่ต้องใช้มือจับเพิ่มความสะดวก
ภาพ: แปรงหวีขน เพื่อป้องกันขนพันกันและขนร่วง
6. เตรียมอุปกรณ์ทำความสะอาดในบ้าน/รถ
นอกจากเราจะมีอุปกรณ์ทำความสะอาดน้องหมาแล้วเราควรจะมีอุปกรณ์ทำความสะอาดบ้านหรือรถติดไว้ด้วย เพราะไม่ว่าจะเป็นหมาขนสั้นหรือยาวก็มักจะมีขนร่วงติดเบาะรถหรือโซฟาเป็นเรื่องปกติ ดังนั้นจำเป็นมากที่จะต้องมี “เครื่องดูดฝุ่น” ที่ช่วยดูดขนสัตว์ได้ ไม่ฟุ้งกระจาย ซึ่งหากเป็นขนาดเล็กไร้สายพกพาง่ายก็จะสะดวกมากขึ้น
ภาพ: ดูดฝุ่นขนสัตว์เลี้ยงตามเบาะรถด้วยที่ดูดฝุ่นไร้สาย
7. เตรียมของเล่นให้น้องหมา
โดยธรรมชาติของหมาหากไม่ได้ออกกำลังกายเพียงพอ อาจจะทำให้มีพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ เช่น กัดของในบ้าน ดังนั้นของเล่นจึงจำเป็นต้องมีเพื่อให้หมารู้สึกผ่อนคลาย ลดความเครียดด้วยการกัด และอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยให้น้องรู้สึกคลายเครียดได้คือการพาไปเดินหรือออกกำลังกายสำหรับหมาที่พลังเหลือล้นแต่อย่าลืม “สายจูงสัตว์เลี้ยง” เพื่อป้องกันไม่ให้น้องหมาวิ่งหนีออกไปจากพื้นที่ปลอดภัย โดยเฉพาะในที่ที่มีรถผ่านหรือคนจำนวนมาก
ภาพ: หากไม่พาน้องหมาไปเดินเล่นหรือผ่อนคลายบ้างจะทำให้น้องทำลายข้าวของในบ้านได้
ภาพ: สายจูงสำหรับสัตว์เลี้ยงจำเป็นอย่างมากหากต้องการพาน้องออกไปนอกบ้าน
8. เตรียมอุปกรณ์เสริมหากต้องเดินทาง
แน่นอนว่าคนรักหมาแบบเรา หากต้องไปเที่ยวที่ไหนไกล ๆ หลายวัน อยากพาน้องขึ้นรถไปด้วย “แผ่นรองนั่งสำหรับสัตว์เลี้ยง” ใช้ปูในรถจึงเป็นอุปกรณ์ที่จำเป็นไม่น้อย โดยควรเลือกวัสดุผ้าที่กันน้ำซึมผ่านและทำความสะอาดได้ง่าย
ภาพ: แผ่นรองนั่งในรถสำหรับสัตว์เลี้ยง
จาก 8 ข้อที่กล่าวมาข้างต้น หากมีการเตรียมพร้อมเป็นอย่างดีก็จะทำให้น้องหมาอยู่บนพื้นฐานของความสุข ทั้งสุขภาพกายและใจดีไปพร้อม ๆ กัน หมาแฮปปี้ คนแฮปปี้ แต่สิ่งที่สำคัญกว่านั้นคือผู้เลี้ยงจะต้องมีความรับผิดชอบที่สูงมาก สามารถจัดสรรเวลา แบ่งความรักและความเอาใจใส่มาให้น้องอย่างเพียงพอด้วย
ภาพ: หมาแฮปปี้ คนแฮปปี้
MAPLES
แผ่นรองฉี่สำหรับสัตว์เลี้ยง ซักได้ ขนาด 35*35 cm (S)
118.00 บาท / ชิ้น
Petology
รถเข็นสำหรับสัตว์เลี้ยง Petology - Piccolocane รุ่น ECO สีน้ำตาล
9,900.00 บาท / ชุด
T.C. DOG HOUSE
บ้านหมา บ้านแมว แบบ 11 นอร์ดิกสไตล์ ขนาด 200x250x200cm.
86,925.00 บาท / ชิ้น96,500.00 บาท