คำถามที่พบบ่อย (FAQ) เกี่ยวกับ เสือ ปูนซีเมนต์ ฉาบสูตรพิเศษ 40 กก.
1. ปูนเสือ ซีเมนต์ ฉาบสูตรพิเศษ คืออะไร?
ปูนเสือ ซีเมนต์ ฉาบสูตรพิเศษ เป็นวัสดุก่อสร้างที่ทางปูนตราเสือสร้างสรรค์ขึ้นมาเพื่องานฉาบโดยเฉพาะ มีจุดประสงค์เพื่อให้งานฉาบผนังง่ายขึ้น และให้ผนังที่ฉาบออกมานั้นเรียบเนียนสวยงามกว่าปูนซีเมนต์สูตรดั้งเดิม เมื่อผสมกับน้ำ จะมีคุณสมบัติเป็นวัสดุเชื่อมประสาน นิยมใช้ในงานก่อสร้างอย่างแพร่หลาย
2. คุณสมบัติพิเศษของปูนเสือ ซีเมนต์ ฉาบสูตรพิเศษมีอะไรบ้าง?
ปูนเสือ ซีเมนต์ ฉาบสูตรพิเศษมีคุณสมบัติเด่นคือ เนื้อปูนละเอียดเป็นพิเศษกว่าปูนทั่วไป ทำให้ผนังที่ได้เรียบเนียนสวยและไม่แตกร้าว มี สารช่วยฉาบพิเศษ เช่น Micro Air Bubble ทำให้การฉาบลื่น เบาแรง ทำงานง่าย และประหยัดเวลา นอกจากนี้ยังมี สารอุ้มน้ำพิเศษ ที่ช่วยให้ผนังไม่แตกร้าวและแห้งตัวในเวลาที่เหมาะสม
3. ปูนเสือ ซีเมนต์ ฉาบสูตรพิเศษ มีขนาดบรรจุเท่าไร และมีมาตรฐานรับรองหรือไม่?
ผลิตภัณฑ์นี้บรรจุในถุงขนาด 40 กก. และมีน้ำหนักรวม 40 กก. มีขนาด 41 x 60 x 12 ซม. และได้รับการรับรองคุณภาพตามมาตรฐาน มอก. 2595-2556
4. ถุงบรรจุภัณฑ์ของปูนเสือ ซีเมนต์ ฉาบสูตรพิเศษเป็นอย่างไร?
ถุงบรรจุภัณฑ์เป็นแบบ ลามิเนต 3 ชั้น ซึ่งช่วยป้องกันความชื้นและแรงกระแทก รักษาคุณภาพปูนให้สดใหม่อยู่เสมอ
5. ปูนเสือมีกี่ประเภท และปูนเสือ ซีเมนต์ ฉาบสูตรพิเศษแตกต่างจากปูนฉาบอื่น ๆ อย่างไร?
ปูนตราเสือมีการสร้างสรรค์ปูนหลากหลายสูตรเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งาน ได้แก่:
- ปูนตราเสือซีเมนต์สูตรดั้งเดิม ก่อ ฉาบ เท: เหมาะสำหรับงานก่อสร้างทุกประเภท โดยเฉพาะอิฐมอญและอิฐบล็อก และสามารถปรับปรุงส่วนผสมได้
- ปูนตราเสือซีเมนต์แบบฉาบสูตรพิเศษ: สร้างสรรค์เพื่องานฉาบโดยเฉพาะ ให้ผนังเรียบเนียนกว่าสูตรดั้งเดิม
- ปูนตราเสือมอร์ตาร์สำหรับฉาบทั่วไป: มีสารอุ้มน้ำ ทำให้ฉาบเรียบเนียนและรวดเร็ว เหมาะสำหรับผนังอิฐมอญ
- ปูนตราเสือมอร์ตาร์ฉาบอิฐมวลเบา: มีการเพิ่มสารอุ้มน้ำที่เนื้อปูนยึดเกาะกันดีเป็นพิเศษ เหมาะสำหรับอิฐมวลเบาโดยเฉพาะ ปูนเสือ ซีเมนต์ ฉาบสูตรพิเศษ (เสือพลัส) มีความโดดเด่นที่เนื้อปูนละเอียดเป็นพิเศษ มีสารช่วยฉาบ (Micro Air Bubble) และสารอุ้มน้ำพิเศษ ซึ่งทำให้ฉาบลื่น เบาแรง ลดการแตกร้าว และไม่ต้องใส่น้ำยาช่วยฉาบ
6. ปูนเสือ ซีเมนต์ ฉาบสูตรพิเศษ เหมาะสำหรับงานประเภทใด?
ปูนเสือ ซีเมนต์ ฉาบสูตรพิเศษ เหมาะสำหรับการฉาบผนังโดยเฉพาะ และใช้ได้ดีกับผนังที่ก่อด้วยอิฐมอญและอิฐบล็อก
7. ปูนเสือ ซีเมนต์ ฉาบสูตรพิเศษ ไม่เหมาะสำหรับงานประเภทใด?
- ไม่ควรใช้ฉาบผนังอิฐมวลเบา เนื่องจากมีปูนเสือมอร์ตาร์สำหรับฉาบอิฐมวลเบาโดยเฉพาะ
- ห้ามใช้ทำงานโครงสร้าง เช่น เทตอม่อ เสา คาน และพื้น
8. ต้องเตรียมผนังก่อนฉาบอย่างไร?
- ควรทำความสะอาดผนังก่อให้เรียบร้อยก่อนเริ่มงานฉาบ
- รดน้ำผนังปูนก่อให้ชุ่มอย่างเพียงพอ เพื่อป้องกันปัญหาการแตกร้าวที่เกิดจากอิฐที่แห้งดูดน้ำจากปูนฉาบ ควรแช่อิฐให้อิ่มตัวก่อนนำมาก่อ
- หลังจากการก่อควรรอให้ผนังก่อแข็งแรงก่อนเริ่มงานฉาบ เพื่อป้องกันการแตกร้าวเนื่องจากการทรุดตัวของผนังก่อ
- แนะนำให้จับปูนตามแนวดิ่งผนังทุกระยะ 1.50 เมตร ก่อนฉาบ 1 วัน
9. อัตราส่วนการผสมปูนเสือ ซีเมนต์ ฉาบสูตรพิเศษกับทรายและน้ำเป็นอย่างไร?
- ผสมปูนฉาบกับทรายละเอียดตามสัดส่วน 1 ต่อ 3
- ปริมาณการผสมน้ำขึ้นอยู่กับความชื้นของทรายเป็นหลัก (สำหรับปูนเสือมอร์ตาร์ฉาบอิฐมวลเบา 1 ถุง ผสมน้ำ 10-11 ลิตร)
10. ต้องใส่น้ำยาช่วยฉาบเพิ่มหรือไม่?
ไม่ต้องใส่น้ำยาช่วยฉาบ หรือน้ำยาแทนปูนขาว
11. การฉาบผนังควรทำอย่างไร?
- ควรจับระดับดิ่งและมุมฉาก (จับเซี้ยม) และติดปุ่มให้ทั่วบริเวณที่จะฉาบก่อน
- การฉาบควรทำ 2 ชั้น โดยปูนฉาบชั้นแรกควรผสมปูนและทรายในอัตราส่วนประมาณ 1 ต่อ 2 เพื่อการยึดเกาะที่ดี
- ความหนารวมของปูนฉาบ 2 ชั้น ไม่ควรเกิน 2.5 เซนติเมตร (หรือ 1.5 เซนติเมตรตามแหล่งอื่น) โดยฉาบรองพื้นหนาประมาณ 8 มม. และฉาบตกแต่งหนาประมาณ 7 มม.
- ควรขึ้นปูนจากด้านบนลงล่างเพื่อให้ทำงานง่าย
- หลังการฉาบ ควรปาดให้เรียบด้วยสามเหลี่ยม และลงฟองเพื่อผิวที่เรียบเนียนยิ่งขึ้น
12. หลังฉาบปูนเสร็จ ต้องดูแลอย่างไร?
- หลังฉาบปูนแล้ว 24 ชั่วโมง ควรบ่มผนังฉาบด้วยการรดน้ำให้ชุ่มชื้นอย่างน้อย 3 วัน การบ่มผนังช่วยให้ผนังแข็งแรงและลดการแตกร้าว
13. ผนังฉาบปูนแห้งใช้เวลานานแค่ไหนก่อนทาสีได้?
ควรปล่อยผนังที่ฉาบเสร็จแล้วทิ้งไว้ให้แห้งอย่างน้อย 7 ถึง 30 วัน ก่อนที่จะทำการลงสีจริง ผนังที่ฉาบด้วยปูนเสือสามารถทาสีทับได้เลย โดยไม่จำเป็นต้องโป๊วรอยร้าวหรือฉาบสกิมโค้ท
14. ข้อควรระวังทั่วไปในการใช้งานปูนเสือ ซีเมนต์ ฉาบสูตรพิเศษมีอะไรบ้าง?
- ควรหลีกเลี่ยงการเกิดแรงสั่นสะเทือนบนผิวผนังในระหว่างฉาบ หรือผนังที่เพิ่งฉาบเสร็จใหม่ เพราะอาจเป็นสาเหตุของการแตกร้าวได้
- หากฉาบปูนผืนใหญ่เกิน 4.00 x 4.00 ม. ต้องมีการเซาะร่องโดยใช้เส้นเซาะร่องสำเร็จรูป PVC
15. ปูนซีเมนต์ก่อให้เกิดอันตรายต่อร่างกายอย่างไร?
ปูนซีเมนต์เป็นสารระคายเคือง เมื่อผสมน้ำจะมีคุณสมบัติเป็นด่างสูง ซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อ:
- ผิวหนัง: หากสัมผัสจะก่อให้เกิดอันตรายต่อผิวหนังชั้นนอกและเข้าไปทำลายผิวหนังชั้นใน ปฏิกิริยาเคมีที่ทำให้เกิดแผลไหม้อาจค่อยๆ เกิดขึ้นโดยปราศจากความเจ็บปวดในช่วงแรก อาจทำให้เกิดผิวหนังอักเสบจากการระคายเคือง หรือผิวหนังไหม้รุนแรง และบางคนอาจมีอาการแพ้ การสัมผัสอย่างต่อเนื่องอาจทำให้เกิดผิวหนังอักเสบเรื้อรัง โดยปูนเปียกจะรุนแรงกว่าปูนแห้ง
- ดวงตา: หากสัมผัสกับดวงตาจะก่อให้เกิดอาการระคายเคือง เป็นแผลไหม้ โดยความรุนแรงจะเพิ่มขึ้นตามระยะเวลาที่สัมผัส
- ระบบทางเดินหายใจ: ผงปูนซีเมนต์อาจก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อเยื่อบุจมูกและทางเดินหายใจ การสูดดมฝุ่นละอองอาจส่งผลกระทบต่อระบบทางเดินหายใจ ทำให้เกิดอาการไอ จาม หรือโรคระบบทางเดินหายใจได้ เช่น โรคถุงลมปอดโป่งพอง หรือโรคหอบหืด
- การกลืนกิน: อาจทำให้เกิดอาการไม่พึงประสงค์ภายในร่างกาย
16. การปฐมพยาบาลเบื้องต้นเมื่อสัมผัสปูนซีเมนต์ทำอย่างไร?
- สัมผัสทางตา: ห้ามขยี้ตา ควรรีบถอดคอนแทคเลนส์ (หากใส่) และล้างตาด้วยน้ำสะอาดปริมาณมากอย่างน้อย 15 นาที จากนั้นรีบไปพบจักษุแพทย์ทันที
- สัมผัสทางผิวหนัง: ควรถอดเสื้อผ้าที่เปื้อนออก และล้างผิวหนังส่วนที่สัมผัสด้วยสบู่และน้ำสะอาด หากเกิดอาการระคายเคือง แสบร้อน หรือพบสิ่งผิดปกติบนผิวหนังให้ไปพบแพทย์ เสื้อผ้าที่เปื้อนต้องซักให้สะอาดก่อนนำกลับมาใช้
- เข้าสู่ร่างกายทางปาก (กลืนกิน): กลั้วปากด้วยน้ำสะอาด ห้ามทำให้อาเจียน และถ้าคนไข้ยังมีสติ ให้ดื่มน้ำมากๆ จากนั้นรีบพาไปพบแพทย์
- เข้าสู่ร่างกายทางเดินหายใจ: หากเกิดการระคายเคืองจากการหายใจเข้าไป ควรรีบไปในที่ที่มีอากาศถ่ายเทสะดวก หากยังมีอาการระคายเคืองจมูกหรือทางเดินหายใจ หรือหายใจขัด ให้รีบไปพบแพทย์
17. ควรสวมใส่อุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคลอะไรบ้างเมื่อทำงานกับปูนซีเมนต์?
เพื่อหลีกเลี่ยงผงปูนซีเมนต์หรือปูนซีเมนต์เปียกสัมผัสกับผิวหนัง หรือเข้าสู่ร่างกาย ควร:
- สวมหน้ากากกันฝุ่น เพื่อป้องกันระบบทางเดินหายใจ
- สวมถุงมือกันน้ำ กางเกงขายาวกันน้ำ และรองเท้ากันน้ำ เพื่อป้องกันมือ เท้า และผิวหนัง ต้องมั่นใจว่าปูนซีเมนต์เปียกไม่สามารถซึมเข้ารองเท้าได้ และไม่ควรคุกเข่าบนปูนซีเมนต์เปียก
- ใส่แว่นตากันฝุ่น เพื่อป้องกันไม่ให้ผงปูนซีเมนต์หรือปูนซีเมนต์เปียกเข้าตา
- ห้ามรับประทานอาหาร เครื่องดื่ม หรือสูบบุหรี่ขณะทำงาน และควรอาบน้ำชำระร่างกายด้วยสบู่และน้ำสะอาดทันทีหลังจากทำงาน
18. การจัดเก็บปูนซีเมนต์ควรทำอย่างไร?
ควรจัดเก็บปูนซีเมนต์ถุงอย่างมั่นคงและปลอดภัยในที่ร่มและแห้งที่มีอากาศถ่ายเทสะดวก และปากถุงปิดสนิท ไม่ควรลากถุงปูนซีเมนต์กับพื้น ควรจัดเก็บแยกตามวันที่รับสินค้า (สินค้าที่รับมาก่อนควรนำไปใช้งานก่อน) การกองเก็บปูนซีเมนต์ถุงสูงหลายชั้นอาจล้มลงมาทับผู้ปฏิบัติงานได้
19. การกำจัดเศษปูนซีเมนต์ที่ไม่ใช้แล้วควรทำอย่างไร?
การนำถุงปูนซีเมนต์เปล่าหรือปูนซีเมนต์ส่วนเกินไปทิ้ง ควรพิจารณาตามกฎหมายที่กำหนด เศษวัสดุปูนซีเมนต์ที่ไม่ปนเปื้อนวัสดุอันตราย จัดเป็นวัสดุที่ไม่ใช้อันตราย และควรกำจัดโดยวิธีการฝังกลบเท่านั้น ควรป้องกันไม่ให้ปูนซีเมนต์เจือปนสู่ท่อระบายน้ำ ท่อน้ำเสีย หรือแม่น้ำลำคลอง และห้ามไม่ให้เด็กเข้าไปในบริเวณดังกล่าว