กระเบื้องเซรามิก เป็นวัสดุที่นิยมในการนำมาตกแต่งพื้นและผนัง เนื่องจากมีความหลากหลายในเรื่องของโทนสี ลวดลาย และผิวสัมผัส อย่างเช่น กระเบื้องลายไม้ กระเบื้องลายหิน ซึ่งการเลือกกระเบื้องเซรามิกนอกจากจะดูที่ความสวยงามแล้ว ก็ควรเลือกประเภทของกระเบื้องให้เหมาะกับการใช้งานด้วย หากแบ่งตามวัสดุหรือเนื้อของกระเบื้อง จะแบ่งได้เป็น 5 ประเภทดังนี้
1. กระเบื้องปูผนัง (Wall Tile) มีเปอร์เซ็นต์การดูดซึมน้ำสูง (การดูดซึมน้ำไม่เกิน 17%) มีการเคลือบผิวหน้าทั้งแบบเรียบมันและเรียบด้าน มีสีสัน ลวดลาย และผิวสัมผัสหลากหลายรูปแบบ มีความแข็งแกร่งน้อยกว่ากระเบื้องประเภทอื่น และไม่ทนต่อรอยขูดขีด จึงเหมาะสำหรับปูผนังภายในอาคาร (ไม่สามารถใช้เป็นกระเบื้องปูพื้นหรือใช้ภายนอกอาคาร)
2. กระเบื้องปูพื้น (Floor Tile) มีเปอร์เซ็นต์การดูดซึมน้ำปานกลาง (การดูดซึมน้ำไม่เกิน 6% โดยดูดซึมน้ำมากกว่าเนื้อแบบพอร์ซเลน) มีการเคลือบที่ผิวหน้าทั้งแบบด้าน แบบมัน แบบผิวสัมผัสหยาบ และแบบที่มีร่องตามลวดลาย แข็งแรงและรับน้ำหนักได้มากกว่ากระเบื้องบุผนัง ส่วนใหญ่จะเป็นแบบไม่ตัดขอบ มีความบางและเบากว่าเนื้อแบบพอร์ซเลน สามารถนำมาใช้ได้ทั้งงานพื้นและงานผนัง
3. กระเบื้องพอร์ซเลน (Porcelain Tile) มีอัตราการดูดซึมน้ำต่ำ (การดูดซึมน้ำเพียง 0.05% หรือแทบไม่ดูดซึมน้ำเลย) จึงมีความแข็งแกร่งสูง รับแรงได้มาก ทนต่อการเสียดสีขูดขีด เหมาะสำหรับใช้เป็นกระเบื้องกรุผนังและปูพื้นทั้งภายในและภายนอก ส่วนใหญ่จะเป็นรุ่นตัดขอบจึงปูได้เรียบต่อเนื่องกว่ากระเบื้องทั้ง 2 ประเภทข้างต้น ส่โดยจะแบ่งเป็น 2 รูปแบบ ดังนี้
3.1 กระเบื้องเกลซพอร์ซเลน (Glazed porcelain Tile) มีการเคลือบสี ลวดลาย ผิวสัมผัสทั้งแบบด้าน มัน และหยาบที่ผิวหน้า สามารถมองเห็นชั้นผิวกระเบื้องแยกกับเนื้อกระเบื้องได้อย่างชัดเจน หากมีการขูดขีดลึกถึงเนื้อกระเบื้องจะสังเกตเห็นได้ง่าย
3.2 กระเบื้องแกรนิโต (Homogeneous Tile) เป็นกระเบื้องที่มีความพิเศษคือ สามารถทำผิวสัมผัสได้หลากหลายกว่ากระเบื้องประเภทอื่น มีผิวหน้าและตัวกระเบื้องเป็นเนื้อเดียวกันทั้งแผ่น เมื่อมองจากด้านข้างจะเห็นเป็นเนื้อเดียวกันทั้งหมด หากผิวหน้ามีรอยขูดขีดหรือแตกกะเทาะจะมองเห็นได้ยาก
4. กระเบื้องแก้ว (Glass Tile) เป็นกระเบื้องเนื้อโปร่งแสง มีลักษณะใส ผิวมัน แวววาว อัตราการดูดซึมน้ำต่ำ มีทั้งแบบแผ่นและแบบโมเสกแก้ว มีลวดลายและสีสันให้เลือกหลากหลาย เหมาะสำหรับตกแต่งผนังเท่านั้น ไม่ควรนำมาปูพื้นเนื่องจากรับน้ำหนักและแรงกระแทกได้น้อย และหากเกิดการแตกหักอาจทำให้เกิดอันตรายได้
5. กระเบื้องโมเสค (Mosaic Tile) เป็นกระเบื้องขนาดเล็ก โดยจะมีตาข่ายอยู่ด้านหลังเพื่อยึดให้กระเบื้องแต่ละชิ้นอยู่ด้วยกันเป็นแผง ทำให้สะดวกต่อการติดตั้งมากขึ้น สามารถนำไปใช้สร้างแพทเทิร์นได้หลากหลาย นิยมติดตั้งคู่กับกระเบื้องอื่นๆ เพื่อเพิ่มความสวยงามทั้งงานพื้นและงานผนัง (ทั้งนี้ ควรคำนึงถึงความหนาและลักษณะของขอบกระเบื้องอื่นที่นำมาปูร่วมกันด้วย) ) มีให้เลือกหลากหลายรูปแบบ ทั้งลวดลาย สีสัน และรูปทรง เช่น สี่เหลี่ยมผืนผ้า วงกลม หกเหลี่ยม แต่ส่วนใหญ่จะเป็นรูปทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัสขนาด 1x1 นิ้ว, 1x2 นิ้ว, 2x2 นิ้ว หรือ 4x4 นิ้ว ทั้งนี้กระเบื้องโมเสคมีหลายวัสดุ ทั้งเนื้อแบบพอร์ซเลนและเนื้อแก้ว จึงควรเลือกให้เหมาะกับแต่ละพื้นที่ใช้งาน เช่น งานผนัง สามารถเลือกใช้โมเสกได้ทั้งแบบเนื้อพอร์ซเลนและเนื้อแก้ว ส่วนงานพื้นหรืองานสระว่ายน้ำควรเลือกใช้แบบเนื้อพอร์ซเลนเท่านั้น
TIPS:
พื้นห้องน้ำ ควรเลือกกระเบื้องที่มีผิวหน้าที่หยาบ และไม่เคลือบผิวเงา (ค่าการกันลื่นไม่น้อยกว่า R10) โดยหมั่นทำความสะอาดกำจัดคราบไขมันเป็นประจำ
พื้นภายนอก เช่น ทางเดินรอบบ้าน บันไดเข้าออกตัวอาคาร หรือที่จอดรถ ควรเลือกกระเบื้องที่มีความแข็งแกร่ง รับน้ำหนักได้ดี มีพื้นผิวหยาบ (ค่าการกันลื่นไม่น้อยกว่า R11) กระเบื้องไม่เคลือบเงา เพื่อไม่ให้ลื่นหากเกิดฝนตก