การเลือกเครื่องปรับอากาศ หรือการเลือกซื้อแอร์ ให้เหมาะสมกับห้องนั้นเป็นเรื่องที่จำเป็น เพื่อให้แอร์ได้ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ และไม่เปลืองไฟ ซึ่งสิ่งที่ควรพิจารณาคือ
ขนาดปริมาตรอากาศในห้องนอน เช่น ถ้าห้องนอนที่มีขนาดประมาณ 3x3 ม. และเพดานสูงไม่เกิน 2.7 ม. ( ซึ่งเป็นปริมาตร และพื้นที่สำหรับหนึ่งคนนอนในหนึ่งคืน ประมาณว่าใช้เครื่องปรับอากาศขนาด 9,000 บีทียูก็จะเหมาะสม หรือสูตรง่ายๆ คือ 1 ตารางเมตร ต่อ 800 บีทียู เช่นห้อง 20 ตารางเมตร แอร์ที่เหมาะสมคือ 16,000 บีทียู เป็นต้น
ผนังของห้องที่จะติดแอร์ โดนแดด หรือไม่ หากมีผนังที่โดนแดด จะต้องบวกเพิ่มจากข้อที่ 1 ไปอีก 1,000 บีทียู เป็นอย่างน้อย หรืออาจจะใช้ตารางนี้เป็นตัวเปรียบเทียบได้เช่นเดียวกัน
ตารางการเลือกขนาด BTU
ขนาดแอร์ 9,000 BTU ห้องปกติ 12-15 ตารางเมตร ห้องโดนแดด 10-14 ตารางเมตร
ขนาดแอร์ 12,000 BTU ห้องปกติ 16-20 ตารางเมตร ห้องโดนแดด 14-18 ตารางเมตร
ขนาดแอร์ 18,000 BTU ห้องปกติ 24-30 ตารางเมตร ห้องโดนแดด 21-27 ตารางเมตร
ขนาดแอร์ 21,000 BTU ห้องปกติ 28-35 ตารางเมตร ห้องโดนแดด 25-32 ตารางเมตร
ขนาดแอร์ 24,000 BTU ห้องปกติ 32-40 ตารางเมตร ห้องโดนแดด 28-36 ตารางเมตร
ขนาดแอร์ 25,000 BTU ห้องปกติ 35-44 ตารางเมตร ห้องโดนแดด 30-39 ตารางเมตร
ขนาดแอร์ 30,000 BTU ห้องปกติ 40-50 ตารางเมตร ห้องโดนแดด 35-45 ตารางเมตร
ระยะห่างของแอร์ควรจะสามารถต่อกับคอมเพรสเซอร์ภายนอกไม่เกินระยะที่กำหนด ประมาณ 12-20 เมตร แล้วแต่รุ่นของแอร์ เพื่อประสิทธิภาพของปั๊มน้ำยาจะได้ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ
ตำแหน่งการติดตั้งที่ดีที่สุดในห้องนอน ควรจะเป็นการติดตั้งไปในแนวเดียวกับเตียงนอน ไม่ควรติดแอร์บนหัวเตียง หรือปลายเตียง เพื่อสุขภาพอนามัยที่ดีของคุณ
นอกจากนี้แล้วปัจจัยอื่นที่ควรพิจารณา คือระบบของแอร์ แอร์ที่เป็น Inverter สามารถประหยัดไฟในระยะยาว แต่มีราคาแพงกว่าแอร์ระบบธรรมดา ซึ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่เราจะต้องตัดสินใจถึงความคุ้มค่าในการใช้งาน